วันที่ 14 มีนาคม ที่ห้องประชุมสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนหนองห้าง จำกัด ต.หนองห้าง อ.กุฉินารายณ์ จ.กาฬสินธุ์ นายสุรพล พงศ์เมธีอภิชัย สหกรณ์ จ.กาฬสินธุ์ ได้สั่งการให้นายสุระศักดิ์ บุญชาญ ผู้อำนวยการกลุ่มส่งเสริมและพัฒนาธุรกิจสหกรณ์ เรียกประชุมตัวแทนเครือข่ายสหกรณ์ 18 อำเภอ ทั้งสหกรณ์นอกภาคการเกษตร สหกรณ์การเกษตร และเจ้าหน้าที่สำนักงานสหกรณ์ จ.กาฬสินธุ์ เข้าร่วมประชุมหารือในการหามาตรการรับมือภัยแล้งที่คาดว่าจะรุนแรงและยาวนานกว่าทุกปี
นายสุระศักดิ์ บุญชาญ กล่าวว่า เครือข่ายสหกรณ์ในพื้นที่ จ.กาฬสินธุ์ ทั้ง 18 อำเภอมีอยู่ทั้งหมด 86 แห่ง ที่มีการบูรณาการกับเครือข่ายสหกรณ์ กำหนดให้มีการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ในส่วนของการระดมทุนในสหกรณ์ ส่งผลให้ขณะนี้สหกรณ์ใน จ.กาฬสินธุ์ จะมีทุนเพิ่มขึ้นกว่า 7 ล้านบาท ในอีก 2 เดือนข้างหน้า ซึ่งเป็นการผสานความร่วมมือระหว่างสหกรณ์ในด้านการเงิน การค้า การลงทุน และเครือข่ายด้านวิชาการ แต่ที่สำคัญจะเป็นเรื่องนโยบายจากรัฐบาลและกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในการรับมือปัญหาภัยแล้ง โดยจะต้องสร้างความเข้าใจไปในทางเดียวกัน เพื่อให้ผ่านพ้นไปได้ ซึ่งต้องร่วมแรงร่วมใจรับมือสถานการณ์ โดยเฉพาะสหกรณ์การเกษตร ที่จะต้องเข้าช่วยเหลือสมาชิกในทุกๆ ทางตลอดช่วงฤดูแล้งนี้ แนวทางการแก้ไขปัญหาภัยแล้งจะบูรณาการร่วมกันกับทุกภาคส่วน
รายงานระบุว่า ในส่วนมาตรการแก้ไขปัญหาในช่วงหน้าแล้งนี้ ล่าสุดนายสุรพล ได้อนุมัติวงเงินจากกองทุนพัฒนาสหกรณ์ส่งเสริมให้ปลูกข้าวโพดหวานพืชใช้น้ำน้อย ทดแทนการปลูกข้าวนาปรังในพื้นที่ชลประทาน และสร้างรายได้สร้างอาชีพในช่วงหน้าแล้งในพื้นที่นอกชลประทาน โดยการส่งเสริมให้สมาชิกสหกรณ์ได้หันมาปลูกพืชผักสวนครัวเหลือกิน นำไปจำหน่ายเป็นรายได้อีกทางหนึ่ง นอกจากนี้ยังมีสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนหนองห้าง จำกัด ได้เปิดโครงการสินเชื่อระบบใหม่ให้กับสมาชิกที่มีกว่า 7,000 รายในการกู้วงเงินรายละ 3,000 บาท ปลอดดอกเบี้ย เพื่อเป็นทุนในการเริ่มต้นโครงการเกษตรผสมผสาน เกษตรทฤษฎีใหม่ ตามแนวพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รวมถึงการเริ่มต้นทำเกษตรอินทรีย์ปลอดสารเคมี ซึ่งสมาชิกเครือข่ายสหกรณ์ในจ.กาฬสินธุ์ ตื่นตัวอย่างมาก
ขณะที่ นางมิรินทร โคตรพัฒน์ ผู้จัดการสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนหนองห้าง จำกัด กล่าวว่า สำหรับสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนหนองห้าง จำกัด ได้ดำเนินการปล่อยกู้ให้กับสมาชิกที่จะเข้าร่วมเกษตรพอเพียงรายละ 3,000 บาท โดยได้ดำเนินการมาติดต่อกัน 5 ปี ตั้งงบประมาณปีละ 738,000 บาท ให้กับสมาชิกปีละ 246 ราย ที่จะหมุนเวียนในกลุ่ม และสำหรับปีนี้ซึ่งภัยแล้งจะมาเยือนทำให้พื้นที่ประสบปัญหาภัยแล้งแล้ว ในส่วนนี้ก็ได้เริ่มปล่อยกู้ให้กับสมาชิกไปแล้วโดยเน้นการปลูกพืชผักสวนครัว และการทำเกษตรใช้น้ำน้อย เงินส่วนนี้ไม่มีดอกเบี้ย สมาชิกที่กู้เงินไปสามารถผ่อนชำระได้ทุกรูปแบบ
