มวลน้ำชีไหลผ่านมหาสารคาม ทะลักข้ามกระสอบทรายท่วมบ้านท่าค้อ 76 หลังจมน้ำ

เมื่อวันที่ 30 ตุลาคม ที่บ้านท่าค้อ ม.14 ต.ลาดพัฒนา อ.เมือง จ.มหาสารคาม มวลน้ำชีที่ไหลผ่าน จ.มหาสารคาม ยังคงมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ถึงแม้ว่าเขื่อนอุบลรัตน์ จ.ขอนแก่น จะปรับลดการระบายน้ำก็ตาม แต่มวลน้ำ 50 ล้านลูกบาศก์เมตร เพิ่งจะมาถึงในพื้นที่ ซึ่งมวลน้ำไหลเชี่ยวส่งผลให้พนังกั้นน้ำที่ชาวบ้านกั้นไว้ ต้านกระแสน้ำไม่ไหว ทำให้พนังพังลง น้ำทะลักไหลเอ่อล้นเข้าท่วมบ้านเรือนราษฎร จำนวน 76 หลังคาเรือน ระดับน้ำสูง 1-1.50 เมตร ชาวบ้านต้องเร่งเก็บข้าวของขึ้นที่สูง บางส่วนที่เก็บไม่ทันก็ต้องปล่อยให้จมน้ำ

นางวิลัย บุญพิคำ อายุ 58 ปี อยู่บ้านเลขที่ 2 บ้านท่าค้อ ต.ลาดพัฒนา อ.เมือง จ.มหาสารคาม เล่าว่า เมื่อ 2-3 วันที่ผ่านมาน้ำจากแม่น้ำชีได้ล้นกระสอบทรายที่ชาวบ้านได้กั้นไว้ที่ริมฝั่งแม่น้ำชี จากนั้นน้ำได้เซาะจนเกิดเป็นช่องว่างขนาดใหญ่ ทำให้มวลน้ำไหลทะลักเข้าท่วมบ้านเรือนทั้งหมด ชาวบ้านเก็บข้าวของแทบไม่ทัน ส่วนบ้านของตนมี 2 ชั้นน้ำได้ท่วมชั้นล่างทั้งหมด ระดับน้ำลึกกว่า 1 เมตร โชคดีที่ตนและแม่ซึ่งอายุ 80 ปี อยู่บนชั้น 2 จึงไม่มีใครเป็นอะไร ส่วนชั้นล่าง น้ำได้ท่วมข้าวของเกือบทั้งหมด ตอนนี้จะเดินทางไปไหนมาไหนก็ลำบาก เนื่องจากบ้านอยู่ห่างถนนสายหลักกว่า 300 เมตร

ด้านนางวิลัยวรรณ ทศภานนท์ ผู้ใหญ่บ้าน บ้านท่าค้อ ม.14 ต.ลาดพัฒนา อ.เมือง จ.มหาสารคาม เปิดเผยว่า บ้านท่าค้อมีบ้านเรือนประชาชนทั้งสิ้น 76 หลังคาเรือน ประชากร 270 คน ที่ผ่านมาบ้านท่าค้อได้รับผลกระทบจากแม่น้ำชีอยู่บ่อยครั้ง ตั้งแต่พายุเซินกา และได้ท่วมบ้านชาวบ้าน เกือบ 10 หลังคาเรือนนานกว่า 2 เดือน แต่เมื่อกลางดึกวันที่ 26 ตุลาคมที่ผ่านมา กระสอบทรายกั้นน้ำได้พังลง มวลน้ำมหาศาลไหลเอ่อล้นเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชน ระดับน้ำสูงถึง 1-1.50 เมตร เริ่มตั้งแต่ทางเข้าหมู่บ้าน ทั่วบริเวณทั้งหมู่บ้าน รถทุกชนิดไม่สามารถสัญจรเข้าออกหมู่บ้านได้ ชาวบ้านต้องใช้เรือสัญจรผ่านไปมา บางรายต้องเดินลุยน้ำเข้าออกหมู่บ้าน โดยทาง ปภ.และ อบต.ลาดพัฒนาให้การช่วยเหลือเบื้องต้นโดยการนำเรือท้องแบนเพื่อให้ประชาชนได้สัญจรเข้าออกหมู่บ้าน และประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อทำการช่วยเหลือประชาชนที่เดือดร้อนต่อไป

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image