จากกรณีมีโจรย่องเบาบุกงัดบ้าน 5 หลังรวดในวันเดียวกันที่บริเวณบ้านเขื่องคำ ต.เขื่องคำ อ.เมืองยโสธร เมื่อวันที่ 4 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ได้ทรัพย์สินไปหลายรายการ ตามที่เว็บไซต์มติชนออนไลน์นำเสนอข่าวไปแล้วนั้น
ล่าสุด เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 10 พฤศจิกายน 2560 พ.ต.ท.วรวุทธิ์ ท่านมุข สว.สส.สภ.เมืองยโสธร พร้อมด้วย ร.ต.อ.วิทวัส กองคำ รอง สว.(สอบสวน) สภ.เมืองยโสธร และเจ้าหน้าที่สืบสวน สภ.เมืองยโสธร ได้คุมตัวนายจรัญ เด่นดวง อายุ 27 ปี อ.เมืองยโสธร ผู้ต้องหาที่ก่อเหตุตระเวนงัดบ้านเรือนของชาวบ้านแล้วเข้าไปลักทรัพย์ภายในบ้านกวาดเอาทรัพย์สินไปหลายรายการ โดยลงมือก่อเหตุในวันเดียวถึง 5 หลังซ้อน ซึ่งเหตุเกิดเมื่อวันที่ 4 พฤศจิกายนที่ผ่านมา พร้อมทั้งนำตัวไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพบริเวณบ้านพักของผู้เสียหายทั้ง 5 หลัง
พ.ต.ท.วรวุทธิ์เปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจแกะรอยจากพยานแวดล้อมที่อยู่ใกล้เคียงที่เกิดเหตุและติดตามจากประวัติของนักโทษที่เพิ่งจะพ้นโทษออกจากเรือนจำ จ.ยโสธร จนกระทั่งสามารถทราบตัวผู้ต้องหาจึงได้เข้าจับกุมตัวดังกล่าว ซึ่งผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่าได้ลงมือก่อเหตุลักทรัพย์ในบ้านพักของผู้เสียหายทั้ง 5 หลังจริง เนื่องจากตนเองไม่ได้ประกอบอาชีพใดเป็นหลักแหล่ง จึงต้องการเงินไปใช้จ่ายส่วนตัวและนำไปซื้อยาบ้ามาเสพ โดยจะใช้วิธีการเดินเท้าตระเวนเลือกเป้าหมายที่จะลงมือก่อเหตุ และจะเลือกบ้านที่อยู่ในที่เปลี่ยวท้ายหมู่บ้าน จากนั้นก็จะอาศัยช่วงจังหวะที่เจ้าของบ้านไม่อยู่บ้าน ใช้อุปกรณ์งัดประตู-หน้าต่างเข้าไปภายในบ้านของผู้เสียหาย ซึ่งอุปกรณ์งัดแงะส่วนใหญ่จะหาได้จากบริเวณบ้านพักของผู้เสียหาย เช่น มีดและเหล็กแหลม จากนั้นจึงลงมืองัดประตู-หน้าต่างจนหลุดออก บางหลังที่เป็นประตูบานกระจกก็จะใช้วิธีการทุบกระจกให้แตกก่อนที่จะเข้าไปค้นหาทรัพย์สินภายในบ้านแล้วหลบหนีไป จำนวน 5 หลัง มีอยู่ 2 หลังที่ได้ทรัพย์สินไปจำนวนมากคือที่บ้านของนางกัลยา พิมพ์สาร อายุ 44 ปี ได้เงินสดจำนวน 25,000 บาท และสร้อยคอทองคำหนัก 1 บาท จำนวน 1 เส้น และบ้านของนายพุทธา น้ำใจดี อายุ 65 ปี ได้นาฬิกาข้อมือ จำนวน 6 เรือน รวมมูลค่าประมาณ 2 หมื่นบาท ส่วนอีก 3 หลังคือ บ้านของนางสมจันทร์ นักร้อง อายุ 45 ปี ได้เงินในกระปุกออมสินประมาณ 300 บาท บ้านของนายประยงค์ อยู่คง อายุ 65 ปี ได้เงินในกระปุกออมสินประมาณ 150 บาท และบ้านของนายนิคม สมไชย อายุ 69 ปี ไม่ได้ทรัพย์สินอะไรไป แต่ทำลายบานประตูบ้านได้รับความเสียหาย โดยหลังจากผู้ต้องหาได้ทรัพย์สินไปแล้วก็จะนำไปขาย เงินสดบางส่วนก็จะนำไปซื้อรถจักรยานยนต์ และที่เหลือก็นำไปซื้อยาบ้ามาเสพ
ภายหลังชี้ที่เกิดเหตุประกอบคำรับสารภาพเสร็จ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงควบคุมตัวไปสอบสวนดำเนินคดีในข้อหาลักทรัพย์ในเคหสถาน และข้อหาเสพยาเสพติดให้โทษ (ยาบ้า) โดยไม่ได้รับอนุญาตต่อไป
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังผู้ต้องหาถูกจับกุม เจ้าหน้าที่ตรวจปัสสาวะของผู้ต้องหาพบสารเสพติดในร่างกาย ซึ่งผู้ต้องหารับสารภาพว่าได้เสพยาบ้ามาก่อนหน้านี้ นอกจากนั้นแล้วผู้ต้องหายังให้การรับสารภาพว่าก่อนหน้านี้ตนเคยถูกจับกุมและต้องโทษจำคุกในเรือนจำจังหวัดยโสธรในข้อหาลักทรัพย์มาก่อน และเพิ่งจะพ้นโทษออกมาเมื่อประมาณต้นเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา แต่หลังจากนั้นก็ไม่ได้ประกอบอาชีพใดจึงได้ตระเวนก่อเหตุลักทรัพย์ตามบ้านเรือนของชาวบ้านเพื่อนำเงินไปใช้จ่ายส่วนตัวและนำไปซื้อยาบ้ามาเสพ
