เก็บแล้วป่าช้าศาลพระภูมิทับที่เจ้าพ่อพระขรรค์ชัยศรี ผช.ผญบ.โวยสื่อทำข่าวไม่บอก

วันที่ 4 ธันวาคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีที่ชาวบ้านหมู่ 9 ต.นางลือ อ.เมืองชัยนาท ร้องทุกข์ว่าที่บริเวณใต้ต้นไม้ริมถนนในหมู่บ้าน ซึ่งเป็นที่ตั้งของศาลเจ้าพ่อพระขรรค์ชัยศรี สิ่งศักดิ์สิทธิ์เก่าแก่ประจำชุมชน ที่ปัจจุบันมีสภาพรกร้างเต็มไปด้วยศาลพระภูมิชำรุดหักพัง ทั้งแบบที่ทำจากปูนซีเมนต์ และแบบที่เป็นไม้ นับจำนวนได้กว่า 100 หลัง รวมทั้งตุ๊กตาแบบต่างๆ ที่แขนหักขาหักจำนวนกว่า 200 ชิ้น จนเจ้าพ่อพระขรรค์ชัยศรีไปเข้าฝันนายประสิทธิ์ สุขจันทร์ อายุ 86 ปี ชาวบ้านที่อาศัยอยู่ตรงข้ามกับศาลเจ้าพ่อว่า “สร้างศาลให้กูอยู่แล้วก็ไปพาใครมาอีกเยอะแยะจนตอนนี้อึดอัดไปหมดแล้ว” ชาวบ้านจึงอยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง มานำศาลพระภูมิชำรุดออกไป เพราะเกรงว่าจะเกิดอุบัติเหตุร้ายแรงหากมีรถล้มรถคว่ำแล้วไปชนหรือกระแทกเข้ากับซากศาลพระภูมิ รวมทั้งต้องการให้เจ้าพ่ออยู่โดยไม่ต้องแออัด ตามความเชื่อและศรัทธา ขณะที่นายกเทศมนตรีนางลือยืนยันว่าจะไม่ขอแตะต้องป่าช้าศาลพระภูมิดังกล่าวเพราะกลัวอาถรรพ์นั้น (คลิกอ่าน นายกเทศมนตรีบางลือ ขอไม่เก็บ-แตะต้องป่าช้าศาลพระภูมิเด็ดขาด เหตุกลัวอาถรรพ์)

ล่าสุดผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ตรวจสอบบริเวณดังกล่าวอีกครั้ง หลังชาวบ้านแจ้งว่านายอำเภอ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ได้นำเครื่องจักรและรถบรรทุกมาทำการเคลื่อนย้ายศาลพระภูมิชำรุดออกไปแล้ว ซึ่งพบว่าบริเวณหน้าศาลเจ้าพ่อพระขรรค์ชัยศรี มีสภาพสะอาดโล่ง ไม่มีซากศาลพระภูมิหลงเหลือให้เห็น พร้อมทั้งทำป้ายขอความร่วมมือไม่ให้นำศาลพระภูมิมาทิ้งติดไว้ที่โคนต้นไม้บริเวณหน้าศาลเจ้าพ่อด้วย

โดยนายประยุทธ จูสิงห์ กำนันตำบลนางลือ เปิดเผยว่า ตนเองกับผู้ใหญ่บ้านหมู่ 9 เดิมมีกำหนดจะพาชาวบ้านทำความสะอาด และขนย้ายศาลหักพังออกไปในวันที่ 5 ธันวาคมนี้ เพราะทางวัดได้ขอเสาศาลพระภูมิเพื่อจะนำไปทำเสากำแพงวัด แต่สื่อมาพบและนำเสนอข่าวก่อน ทำให้ร้อนใจต้องรีบมาทำการขนย้ายออกก่อนวันที่ 5 และยืนยันว่าไม่ได้นิ่งนอนใจ เพียงแต่ยังไม่ถึงกำหนดวันที่จะทำเท่านั้น แต่เมื่อสื่อโหมกระพือข่าวเร่งเร้าขนาดนี้ ทำให้จำเป็นต้องตัดสินใจทำการขนย้ายก่อนกำหนดในวันที่ 3 ธันวาคม

โดยระหว่างที่ผู้สื่อข่าวกำลังถ่ายภาพความคืบหน้าของการดำเนินการ ได้มีผู้หญิงอายุประมาณ 45-50 ปี พูดแสดงความไม่พอใจว่า “นักข่าวจะทำข่าว ทำไมไม่บอกเจ้าของพื้นที่ก่อน เพราะทำแบบนี้เจ้าของพื้นที่เสียชื่อ” พร้อมทั้งได้บอกให้เพื่อนที่มาด้วยจดลักษณะรถและเลขทะเบียนของรถผู้สื่อข่าวไว้ ซึ่งไม่ทราบว่าต้องการนำไปใช้เพื่อจุดประสงค์ใด ต่อมาทราบว่าบุคคลดังกล่าวเป็นผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านเจ้าของพื้นที่ ที่ไม่พอใจการนำเสนอข่าวของสื่อในกรณีดังกล่าว

Advertisement
นายประยุทธ จูสิงห์ กำนันตำบลนางลือ

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image