เมื่อวันที่ 20 มกราคม นายสุกิจ อัถโถปกรณ์ อดีต ส.ส.ตรัง พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า สำหรับโครงการช่วยเหลือเกษตรกรชาวสวนยางพารา 1,500 บาทต่อไร่ ขณะนี้อยู่ในช่วงการลงทะเบียนตามพระราชบัญญัติการยาง ซึ่งตอนนี้ออกกฎระเบียบครอบคลุมไปถึงคนที่รับจ้างกรีดยางด้วย คือ เจ้าของสวนยางได้รับ 900 บาท และคนกรีดยางหรือลูกจ้างได้รับ 600 บาท แต่ตนเองถือว่านโยบายนี้ออกมาขับเคลื่อนช้ามาก ชาวสวนยางต่างเห็นว่าไม่ทันใจ เพราะช่วงนี้ชาวสวนยางได้หยุดกกรีดยางแล้ว ขาดรายได้จุนเจือครอบครัว แต่ที่รัฐบาลจะช่วยเหลือชาวสวนยาง หลังจากที่ราคายางตกต่ำ กลับพบว่าถึงวันนี้ชาวสวนยางยังไม่ได้รับเงินช่วยเหลือจากรัฐบาลเลย
ส่วนการรับซื้อยางในราคากิโลกรัมละ 45 บาทนั้น นายสุกิจกล่าวว่า รัฐบาลภายใต้การนำของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ตัดสินใจช้ามากและตนเองในนามของตัวแทนชาวสวนยาง ได้ยื่นข้อเสนอในการรับซื้อยางแบบชี้นำตลาดไปตั้งแต่ปี 2557 และทางรัฐบาลไม่มีการขับเคลื่อนใดๆ ที่จะออกมาช่วยชาวสวนยางอย่างเป็นรูปธรรม
สำหรับยางพาราหากราคายังอยู่อย่างนี้ นายสุกิจมองว่า อนาคตไม่สดใสแน่นอน ชาวเกษตรกรสวนยางต้องคิดใหม่ เอาพืชอย่างอื่นมาปลูกทดแทน ซึ่งสำรวจดูแล้วชาวใต้ชอบปลูกไม้ยืนต้น คือ ปลูกปาล์ม แต่ชาวเกษตรกรคงไม่เอาแน่เพราะราคาลุ่มๆ ดอนๆ ไม่แน่นอนเช่นเดียวกัน ซึ่งตนเองคิดว่าน่าจะสร้างโรงไฟฟ้าน้ำมันปาล์มเป็นวัตถุดิบป้อนโรงไฟฟ้า เพราะหลังจากที่สร้างแล้วเชื่อว่าคงไม่ต้องพูดอะไรอีกที่จะให้เกษตรกรปลูกปาล์ม เพราะชาวเกษตรกรเข้าใจเองได้ควรปลูกพืชชนิดไหน ที่จะสามารถสร้างรายได้ดีกว่าการปลูกยางพารา
อย่างไรก็ตาม หลังจากรัฐบาลประกาศจะรับซื้อยางแผ่นดิบ ในราคา 45 บาทต่อกิโลกรัม ตั้งแต่วันที่ 25 มกราคม 2559 ปรากฏว่าร้านรับซื้อยางแผ่น หรือโรงงานรับซื้อยางดิบค่อนข้างเงียบเหงา เนื่องจากชาวสวนยางได้เก็บยางไว้ขายในวันที่ 25 มกราคม ที่จะมีราคาสูงถึง 45 บาท