วันที่ 21 มีนาคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายสุทธิพงษ์ คล้ายอุดม นายอำเภอหัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ กล่าวว่า สถานการณ์ไฟป่าในพื้นที่หมู่ 3 บ้านป่าละอูบน ต.ห้วยสัตว์ใหญ่ ยังมีปัญหาเล็กน้อยและจะเข้าสู่สภาวะปกติ ภายใน 1-2 วัน หลังจากมีการสนธิกำลังทุกฝ่ายร่วมกันทำแนวเขตกันไฟเพื่อกันพื้นที่แล้วกว่า 90% และยืนยันว่าควันไฟที่บริเวณป่าละอูบนในป่าลึกด้านทิศตะวันตก ห่างจากตัวเมืองหัวหินประมาณ 80 กิโลเมตร (กม.) ไม่มีผลกระทบกับการท่องเที่ยวแต่อย่างใด
ด้านนายกมล นวลใย หัวหน้าอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน กล่าวว่า ที่ผ่านมาจากการบินสำรวจไฟป่าบริเวณป่าละอูบน และในป่าลึกที่ อ.หนองหญ้าปล้อง จ.เพชรบุรี พบว่ายังมีไฟป่าอยู่ จึงให้เจ้าหน้าที่ได้เดินเท้าเข้าไปทำแนวกันไฟ และได้รับรายงานว่าเส้นทางเดินเท้าเข้าพื้นที่ยังมีปัญหา เนื่องจากพื้นที่ดังกล่าวเป็นป่าถล่มหรือป่าที่ยุบตัวลงมาและเป็นป่าหนาม นอกจากนั้นการสื่อสารกับเจ้าหน้าที่ที่เข้าปฏิบัติงานในพื้นที่ยังมีอุปสรรค เนื่องจากเป็นหุบเขาที่ลึกและสูงชันทำให้ไม่สามารถติดต่อประสานได้ตามปกติ ซึ่งยืนยันว่าสาเหตุที่ทำให้เกิดไฟป่าครั้งนี้มาจากคนจุดไฟเผาป่าเพื่อสร้างสถานการณ์ซึ่งส่งผลกระทบกับระบบนิเวศวิทยาในพื้นที่ป่าที่จะประกาศให้เป็นมรดกโลก
“ขณะนี้ยังมีไฟป่าในพื้นที่บ้านแม่คะเมย บ้านกระซู่ ลิ้นช้าง และหุบสาริกา ต.ยางน้ำกลัดเหนือ อ.หนองหญ้าปล้อง จ.เพชรบุรี ในเขตอุทยานฯต่อเนื่องเขตป่ายางน้ำกลัดเหนือและใต้ ครอบคลุมพื้นที่ป่าถูกไฟไหม้รวมประมาณ 3,000 ไร่ ส่วนใหญ่เป็นลักษณะไฟผิวดินยกเว้นป่าไผ่ และสามารถควบคุมไฟป่าไว้ได้แล้วบางส่วน” นายกมลกล่าว
ต่อมาเมื่อเวลา 14.00 น. นายสรัชชา สุริยกุล ผอ.สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3 สาขาเพชรบุรี พร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้ประชุมวางแผนในการจัดกำลังเข้าสกัดและดับไฟที่กำลังลุกไหม้อยู่ในพื้นที่ อ.หนองหญ้าปล้อง ติดต่อกับ อ.แก่งกระจาน ซึ่งเป็นพื้นที่ของอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน ที่เกิดไฟลุกไหม้มาตั้งแต่วันที่ 16 มี.ค.59 โดยหลายแห่งเป็นพื้นที่ที่มีกลุ่มชาติพันธุ์อาศัยอยู่ ซึ่งสภาพพื้นที่ไฟลุกไหม้เดินทางเข้าไปควบคุมและดับเพลิงได้ยาก ส่วนใหญ่ต้องใช้เจ้าหน้าที่เดินเท้าเข้าไปควบคุมเพลิง
นายสรัชชาเปิดเผยว่า ไฟที่ลุกไหม้ในพื้นที่ป่ายางน้ำกลัดเหนือ-ใต้ มีลักษณะไม่ปกติเนื่องจากมีการจุดเป็นระยะ ครอบคลุมพื้นที่เป็นวงกว้าง พอบางจุดดับได้แล้ว ก็มีเกิดจุดใหม่ขึ้นมาอีก โดยจากการบินสำรวจด้วยเฮลิคอปเตอร์ เมื่อเย็นวันที่ 20 มีนาคมที่ผ่านมา พบมีไฟลุกไหม้ใหม่ในพื้นที่บ้านกระซู่ ลิ้นช้าง และหุบสาริกา อ.หนองหญ้าปล้อง จำนวน 6 จุด และบ้านแม่คะเมย พื้นที่แก่งกระจานอีกจำนวน 3 จุด รวมมีจุดไฟไหม้ใหม่ 9 จุด เจ้าหน้าที่ได้ควบคุมเปลวเพลิงไว้ได้จำนวน 3 จุด ทั้งหมดมีลักษณะเหมือนการวางเพลิงเนื่องจากจุดเกิดไฟป่ามีลักษณะเป็นแนวเส้นอย่างมีระบบ เหมือนคนเดินเท้าเข้าไปจุด โดยเบื้องต้นตั้งประเด็นกลุ่มผู้จุดไฟไว้ 3 กลุ่ม 1.กลุ่มที่ไม่พอใจและมีความขัดแย้งและไม่ต้องการให้ขึ้นทะเบียนแก่งกระจานเป็นมรดกโลก 2.กลุ่มที่ไม่พอใจการทำงานของเจ้าหน้าที่ที่เพิ่มมาตรการปราบปรามผู้กระทำผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติ และ 3.กลุ่มผู้ที่ขัดแย้งระหว่างกลุ่มอนุรักษ์ธรรมชาติ และต้องการขยายพื้นที่เพื่อใช้ประโยชน์ อย่างไรก็ตาม ต้องรวบรวมข้อมูลเพื่อความชัดเจนอีกครั้งต่อไป
นอกจากนี้ นายสรัชชากล่าวว่า ได้ประสานไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และให้เจ้าหน้าที่ลงพื้นที่มวลชนสัมพันธ์ให้ชุมชนที่อยู่ในรัศมีใกล้เคียงเฝ้าระวังภัย และรวบรวมข้อมูลเพื่อหาผู้กระทำการจุดเพลิง และได้ให้กำลังเจ้าหน้าที่อุทยานฯซึ่งเดินเท้าอยู่ในพื้นที่ทำการสกัดกั้นโอบวงล้อมในจุดที่คาดว่าผู้ต้องสงสัยจุดไฟอยู่ในป่าเพื่อทำการจับกุม และสามารถสนธิกำลังทุกฝ่ายช่วยดับไฟป่าแล้วกว่า 700 คน ส่วนเจ้าหน้าที่ที่ได้รับบาดเจ็บ สำลักควัน ขณะนี้อาการปลอดภัยแพทย์ให้เดินทางกลับบ้านได้แล้ว
