ตร.สงขลารวบแล้ว แก๊งลักทรัพย์ในเรือประมงเวียดนาม 7 ลำ ก่อนเผาทำลายหลักฐาน

รายงานข่าวจากจังหวัดสงขลาเมื่อวนที่ 25 ธันวาคมว่า จากกรณีเกิดเหตุเพลิงไหม้เรือประมงสัญชาติเวียดนาม ซึ่งเป็นเรือของกลางจอดเก็บรักษาไว้ที่ทะเลสาบสงขลา บริเวณสวนเฉลิมพระเกียรติ 72 พรรษา ได้รับความเสียหาย 6 ลำ จมในทะเล 1 ลำ เหตุเกิดเมื่อเช้ามืดวันที่ 20 ธันวาคมที่ผ่านมา ซึ่งสำนักงานตำรวจแห่งชาติให้ความสำคัญกับคดีนี้ โดยได้ส่งพล.ต.อ.เดชณรงค์ สุทธิชาญบัญชา รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติเดินทางลงพื้นที่ติดตามคดี พร้อมสั่งการให้ตำรวจภูธรภาค 9 ร่วมกับตำรวจภูธรจังหวัดสงขลา แต่งตั้งคณะทำงานคลี่คลายคดีขึ้น จนกระทั่งศาลจังหวัดสงขลาได้อนุมัติหมายจับผู้ต้องหาในคดีรวม 7 คน

ล่าสุดนั้นเจ้าหน้าที่ได้จับกุมได้แล้ว จำนวน 6 คน ทั้งหมดเป็นคนในพื้นที่อำเภอเมืองและอำเภอสิงหนคร จังหวัดสงขลา ประกอบด้วย นายอำนวย สุวรรณละออง อายุ 56 ปี อยู่บ้านเลขที่ 143/365 หมู่ที่ 8 ต.เขารูปช้าง อ.เมือง จ.สงขลา นายสถาพร อนุสรณ์ อายุ 41 ปี อยู่บ้านเลขที่ 81/1 ม.8 ต.พะวง อ.เมือง จ.สงขลา นายสวาท แก้วหนู อายุ 41 ปี อยู่บ้านเลขที่ 36 ม.6 ต.ดอนทราย อ.ปากพะยูน จ.พัทลุงนายบัญชาหรือ ปู กิมเส้ง อายุ 44 ปี อยู่บ้านเลขที่ 8/1 ซอย 3 ต.บ่อยาง อ.เมือง จ.สงขลา นายธีรยุทธ ชาตรี อายุ 32 ปี อยู่บ้านเลขที่ 93 ถ.ราษฎร์อุทิศ อ.เมือง จ.สงขลา นายพิเชฐ พรรณนา อายุ 38 ปี อยู่บ้านเลขที่ 120/342 ม.8 ต.เขารูปช้าง อ.เมือง จ.สงขลา ส่วนใหญ่เป็นชาวประมงและลูกเรือประมง พร้อมของกลางเป็นแบตเตอร์รี่ ใช้ในเรือ ถังแก๊สปิคนิคซึ่งคาดว่าเป็นทรัพย์สินในเรือประมงเวียดนาม ส่วนนายวิโรจน์ โมรา อายุ 48 ปี อยู่ระหว่างหลบหนี

จากการสอบปากคำเบื้องต้นนั้นทราบว่าทั้งหมดให้การรับสารภาพว่า ได้ร่วมกันเข้าไปนำทรัพย์สิน ซึ่งเป็นเครื่องยนต์เรือ อุปกรณ์ในเรือ รวมถึงส่วนประกอบของเรือ เพื่อนำเอามามอบให้กับนายบัญชาหรือปู ซึ่งเป็นผู้ว่าจ้าง ให้ผู้ต้องหาทั้งหมดวันละ 500 บาทต่อคน โดยอ้างว่าการดำเนินคดีเรือประมงเวียดนามสิ้นสุดแล้ว สามารถนำเอาของกลางมาได้ ทั้งหมดจึงได้ร่วมกันไปถอดเครื่องยนต์เรือ และชิ้นส่วนต่างๆ ออกมาทั้งหมด ตามการว่าจ้าง โดยใช้เวลาประมาณ 3 วัน ในการถอดเครื่องยนต์เรือพร้อมขนออกมา ในส่วนของคดีลอบวางเพลิงนั้น ในขณะนี้ยังอยู่ระหว่างการสอบสวนสืบสวนว่าเกี่ยวข้องกับคนกลุ่มนี้ หรือมีผู้อื่นก่อเหตุ สำหรับผู้ต้องหาทั้งหมดนี้นั้น พนักงานสอบสวนได้แจ้งข้อหาร่วมกันลักทรัพย์

ในทางการสืบสวนนั้นเชื่อว่า ยังมีผู้อยู่เบื้องหลังนายบัญชา ในการลักทรัพย์ของกลางในเรือประมงสัญชาติเวียดนามทั้ง 7 ลำ ซึ่งมีมูลค่านับล้านบาท อีกจำนวนหนึ่ง โดยเจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการตรวจสอบว่าเจ้าหน้าที่ส่วนใดที่ทำหน้าที่รับผิดชอบดูแลเรือของกลางทั้งหมด เพื่อสอบสวนว่ามีส่วนพัวพันกับการก่อเหตุในครั้งนี้ด้วยหรือไม่ ทั้งนี้พนักงานสอบสวนอยู่ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อเสนอศาลจังหวัดสงขลาขอออกหมายจับผู้ต้องหาในคดีนี้เพิ่มอีก

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image