เมื่อวันที่ 2 มกราคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า คลื่นลมในอ่าวไทยที่ทวีกำลังแรงขึ้นอีกครั้ง เป็นระลอกที่ 3 ได้ซัดเข้าถล่ม ทำลายชายฝั่งในพื้นที่อำเภอสิงหนคร จังหวัดสงขลา สร้างความเสียหายขยายวงกว้างมากยิ่งขึ้น หลังจากได้ซัดถล่มชายฝั่งจนทำให้หมู่บ้านชายฝั่งอ่าวไทยในอำเภอสิงหนคร บ้านเรือนพังเสียหายกว่า 50 หลัง กระชังปลา เสียหายกว่า 80 กระชัง ล่าสุด ธรรมสถานหาดทรายแก้ว ในพื้นที่หมู่ 1 ตำบลหัวเขา อำเภอสิงหนคร ได้ถูกคลื่นในอ่าวไทยสูง 3-4 เมตร ซัดเข้าถล่ม จนต้นไม้ล้มลงเสียหาย กุฏิฉันภัตตาหาร เสียหายเพิ่มอีก 1 หลัง หลังจากเสียหายไปแล้วกว่า 10 หลังก่อนหน้านี้
พระเล็ก ขันติวโร พระสงฆ์เพียงรูปเดียวของธรรมสถานหาดทรายแก้วบอกว่า ในช่วงเดือนธันวาคมปีที่ผ่านมาต่อเนื่องจนถึงขณะนี้ ถูกคลื่นซัดถล่มมาแล้ว 3 ครั้ง ครั้งนี้นั้นเสียหายมากที่สุด โดยในวันพรุ่งนี้ได้ขอแรงจากเทศบาลเมืองสิงหนคร และชาวบ้านในพื้นที่ มาช่วยกันขนย้ายทรัพย์สินของธรรมสถานฯ ซึ่งเป็นไม้ที่รื้อมาจากกุฏิได้บางส่วน พระพุทธรูป ที่มีอยู่ 4 องค์ เพราะเชื่อว่าหากปล่อยทิ้งเอาไว้ จะถูกคลื่นซัดถล่มพังเสียหายอย่างแน่นอน โดยในช่วงฤดูมรุสมนั้น จะประสบปัญหาคลื่นซัดถล่มเป็นประจำทุกปี แต่ไม่มีหน่วยงานใดเข้ามาเหลียวแล หรือหาแนวทางในการป้องกัน จนทำให้ที่ดินของธรรมสถานแห่งนี้หายไปเรื่อยๆ จนเกือบหมดแล้ว ในรอบสิบห้าปีที่ผ่านมานั้น ปัญหาคลื่นซัดถล่มชายฝั่ง ทำให้ที่ดินของวัดจากกว่า 70 ไร่ วันนี้เหลือไม่ถึง 1 ไร่ และคาดว่าจะถูกคลื่นกลืนหายไปทั้งหมดในไม่ช้า
ศูนย์อุตุนิยมวิทยาภาคใต้ฝั่งตะวันออก จังหวัดสงขลา รายงานสภาพอากาศว่า มรสุมตะวันออกเฉียงเหนือกำลังแรงพัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้ ทำให้คลื่นลมในอ่าวไทยมีคลื่นสูง 2-3 เมตร ขอให้ประชาชนที่อาศัยบริเวณชายฝั่งทะเลระมัดระวังอันตราย ที่เกิดจากลมแรงและคลื่นซัดเข้าหาฝั่ง ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวัง ส่วนเรือเล็กควรงดออกจากฝั่ง จนถึงวันนี้ 2 มกราคม
