วันที่ 23 มีนาคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ร.ต.นิมิตร อยู่เจริญ หัวหน้าชุดปฏิบัติการศูนย์ต่อสู้ป้องกันภัยทางอากาศ กองทัพบกที่ 1 พร้อมทหารชุดปฏิบัติการพื้นที่อำเภอหนองเสือ และเจ้าหน้าที่ สตง. ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบพื้นที่ ถนนทรุดเมื่อคืนที่ผ่านมา พบว่าถนนทรุดและสไลด์ตัวยาวประมาณ 45 เมตร ลึก 2.5 เมตร บริเวณถนนทางหลวงชนบท กมที่6 หมายเลข ปท.3027 เลียบคลองสิบฝั่งตะวันตก หมู่ที่ 4 ตำบลบึงบา อำเภอหนองเสือ จังหวัดปทุมธานี
โดยมีเจ้าหน้าที่ช่างจาก อบต.บึงบาได้นำหลอดไฟส่องสว่างมาติดที่ป้ายของทางหลวงชนบทให้มองเห็นได้ชัดเจนในเวลากลางคืน เนื่องจากเกรงว่าจะเกิดอุบัติเหตุ เพราะว่าพื่นถนนทรุดลึก หากมีรถตกลงไปจะบาดเจ็บเป็นอันตรายได้ ทั้งนี้บริเวณใกล้เคียงยังมีรอยราวอีกหลายจุดซึ่งทางหลวงชนบทได้ระวัง ถือว่าเป็นพื้นที่อันตราย
จากข้อมูลสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยได้รวบรวมพื้นถนนทรุดไว้เป็นสถิติ ปี พ.ศ. 2558 จังหวัดปทุมธานีมีพื้นถนนทรุดอำเภอหนองเสือ 95 แห่ง อำเภอคลองหลวง 42 แห่ง อำเภอธัญบุรี 3 แห่ง อำเภอลาดหลุมแก้ว 7 แห่ง อำเภอเมือง 3 แห่ง อำเภอลำลูกกา 2 แห่ง รวมทั้งหมด 152 แห่ง ซ่อมแซมแล้ว 10 แห่ง รองบประมาณ 101 แห่ง อยู่ระหว่างดำเนินการ 41 แห่ง และในปี พ.ศ.2559 พื้นถนนทรุดแล้ว 12 แห่ง คือ 1. วันที่ 5 ม.ค. 59 คันคลองพระยาบันลือ กม 30+060 ทรุดตัว 2. วันที่ 10 ม.ค. 59คันคลองพระยาบันลือ กม 23+400 ทรุดตัว 3. วันที่ 11 ม.ค. 59คันคลองพระยาบันลือ กม17+450 ทรุดตัว 4. วันที่ 3 มี.ค. 59คันคลองระแหง กม0+956 ทรุดตัว 5. วันที่ 7 มี.ค. 59คันคลองสำรี กม4+890 ทรุดตัว 6. วันที่ 10 มี.ค.59 คันคลองขุนศรี กม.7+100 ทรุดตัว 7. วันที่ 25 ก.พ. 59 ถนนเลียบคลอง 8 และคลอง 9 ทรุดพร้อมกัน 3 แห่ง 8. วันที่ 1 มี.ค. ถนนเลียบคลอง13 ฝั่งตะวันออก กม.0.7 หมู่ 5 ต.บึงน้ำรักษ์ อ.ธัญบุรี 9. วันที่ 2 มี.ค. 59 ถนนเลียบคลอง9ทรุด 10. วันที่ 7 มี.ค. 59 ถนนเลียบคลอง 14 ทรุด กม.0+700 ต.บึงน้ำรักษ์
11. วันที่ 13 มี.ค. คันคลองรังสิตประยูรศักด์ ทรุดตัวใกล้สะพาน ข้ามคลอง 12 ต.บึงน้ำรักษ์ อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี และ 12. วันที่ 22 มี.ค. 59 ถนนเลียบคลอง10ทรุด
ด้านร.ต.นิมิตร อยู่เจริญ หัวหน้าทหารชุดปฏิบัติการพื้นที่อำเภอหนองเสือ กล่าวว่าขอฝากเตือนประชาชในพื้นที่ช่วยดูแลป้ายที่ทางหลวงชลบทที่ได้นำมาติดตั้งไว้ เพื่อเตือนประชาชน อย่าไม่เคลื่อนย้าย หรือนำออกไป หากฝืนอาจเป็นอันตรายได้ ทั้งนี้ ระดับน้ำในคลอง 10 ตลอดทั้งคลองได้แห้งลงอย่างรวดเร็ว เนื่องจากเกษตรกรต่างสูบน้ำกัน ต่อจากนี้จะประชุมผู้นำชุมชนท้องถิ่นให้แบ่งเวรกันสูบน้ำ โดยแบ่งเป็นลักษณะต้นคลอง กลางคลอง และปรายคลอง แบ่งกันสุบตามเวลา หากสูบพร้อมกันน้ำก็จะแห้งแบบนี้ และถนนก็จะทรุดตามมา
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
