วันที่ 23 มีนาคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้เกิดเหตุไฟป่าขึ้นทางทิศตะวันตกของแหล่งท่องเที่ยวเชิงนิเวศภูฝอยลม บนพื้นที่อุทยานน้ำตกคอยนาง โดยเพลิงลุกลามจากป่าภูน้ำจั้น อ.หนองวัวซอ จ.อุดรธานี ลามเข้าถึง “วัดถ้ำเพียงอินทร์” ใกล้กับแหล่งผลิตก๊าซภูฮ่อม 4 พระอาจารย์สมพงษ์ อุปสโม ประธานสงฆ์วัดถ้ำเพียงอินทร์ นำคณะลูกศิษย์ อุบาสก-อุบาสิกา ที่มาปฏิบัติธรรมไปช่วยกันดับไฟ ก่อนแจ้งไปยังสถานีควบคุมไฟป่าอุดรธานี ที่ตั้งอยู่ในในพื้นที่ “ภูฝอยลม”
จากนั้น กำลังหน่วยดับไฟจากสถานีควบคุมไฟป่าอุดรธานี, วนอุทยานน้ำตกคอยนาม, ศูนย์พันธุ์ไม้ 72 พรรษามหาราชินี, หน่วยรักษาต้นน้ำห้วยหลวง และหน่วยป้องกันไฟป่าจาก จ.หนองบัวลำภู-หนองคาย-สกลนคร เดินทางเข้าไปในพื้นที่ แต่จากสภาพป่ายังไม่มีการบุกรุก มีเชื้อเพลิงเป็นใบไม้แห้งมาก และกระแสลมแรง ทำให้ไฟป่าลุกไหม้อย่างรุนแรง จนไม่สามารถส่งกำลังเข้าไปได้ จึงรายงานให้นายสวัสดิ์ อั้นเต้ง ผอ.สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 10 และขอความช่วยเหลือไปยังนายณฐพล วิถี นายอำเภอหนองแสง สั่งการให้ อบต.แสงสว่าง, อบต.นาดี และ อบต.ทับกุง ส่งรถดับเพลิงพร้อมพนักงาน มาช่วยฉีดน้ำสกัดริมถนนแนวกันไฟ สายฝอยลม-ท่ายม และฝอยลม-ผาสิงห์ เพื่อไม่ให้ไฟป่าลุกลามเข้าพื้นที่วัดถ้ำเพียงอินทร์, พุทธสถาน, อุทยานไดโนเสาร์, ถ้ำติ้ว และโครงการฝอยลม แต่ปรากฏว่าไฟที่โหมรุมแรง กระโดดข้ามแนวกันไฟ ถนนฝอยลม-ผาสิงห์ ต้องรอให้ไฟลดกำลังลง จึงส่งหน่วยดับไฟป่าเข้าพื้นที่อีกครั้ง โดยมีลูกศิษย์วัดทราบข่าวนำน้ำดื่มขึ้นมาช่วยเป็นระยะ
พระอาจารย์สมพงษ์กล่าวว่า ไฟป่าเกิดขึ้นตั้งแต่เช้ามืดและลุกลามเข้าใกล้วัดตอนสายๆ พระสงฆ์และญาติโยมช่วยกันดับ แต่เห็นว่ารุนแรงก็แจ้งป่าไม้เข้ามาช่วย แต่ก็ต้องพบกับไฟที่โหมแรงมาก เหมือนสภาพไฟป่าเมื่อปี 56 ที่ป่าบริเวณนี้ไม่เคยมีไฟป่าเป็นสิบปีก็เกิดขึ้น คราวนี้เชื้อไฟ 3-4 ปี ก็มีจำนวนมากเช่นกัน โดยยังมีพื้นที่ไม่เคยมีไฟป่าเป็นหุบอยู่ระหว่างวัดกับภูฝอยลม อยากจะรักษาพื้นที่บริเวณนี้ไว้
ด้านนายสวัสดิ์ อั้นเต้ง ผอ.สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 10 เปิดเผยว่า ป่าบริเวณนี้เป็นที่เฝ้าระวังเพราะไม่เกิดไฟป่ามาหลายปี ทำให้มีเชื้อเพลิงสะสมจำนวนมาก โดยได้ทำแนวกันไฟครอบคลุมแล้ว แต่เพราะไฟป่ารุนแรงก็มีปัญหาบ้าง จึงร่วมกับหน่วยงานของป่าอนุรักษ์ และป่าสงวนฯ รวมทั้งหน่วยงานข้างเคียง ระดมกำลังคนมาช่วยเหลือ จนในช่วงเย็นไฟเริ่มลดความรุนแรงลง ได้ส่งหน่วยดับไฟป่าพื้นที่จนสามารถควบคุมไฟได้ในระดับหนึ่งแล้ว
“ไฟป่าที่เกิดขึ้นเป็นฝีมือของมนุษย์ ส่วนใหญ่เกิดขึ้นจากความตั้งใจ โดยตั้งแต่ต้นฤดูมาจนถึงขณะนี้ มีไฟป่าเกิดขึ้นแล้ว 50 ครั้ง พื้นที่รวม 1,000 ไร่ ส่วนใหญ่เป็นไฟที่เกิดขึ้นเป็นแปลงเล็กๆ 5-10 ไร่ จนท.สามารถเข้าดับไฟได้อย่างรวดเร็วทุกครั้ง ล่าสุดเมื่อคืนที่ผ่านมาเกิดขึ้นบริเวณที่เรียกว่าภูหินร้อยก้อน ซึ่งบริเวณนี้เกิดขึ้นหลายครั้งแล้ว เมื่อสามารถดับไฟลงได้ ก็ต้องกลับมาดับที่ด้านตะวันตกอีก โดยมีรถดับเพลิงมาช่วยสนับสนุน กระจายอยู่ตามจุดต่างๆ และเฝ้าระวังตลอดเวลา” นายสวัสดิ์กล่าว
