เมื่อวันที่ 21 มกราคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นางสว่าง ฐานทองดี เกษตรกรวัย 70 ปี ชาวบ้านพังขว้าง อำเภอเมืองสกลนคร จังหวัดสกลนคร พลิกวิกฤตแล้ง จากผักที่ขาดตลาด ด้วยการเร่งปลูกพริกหยวกในพื้นที่ 5 ไร่ของตนเอง ส่งขายตลาดเมืองสกลนคร ในกิโลกรัมละ 15 บาท ในหนึ่งวันสามารถขายได้ 600-700 บาท สร้างรายได้เป็นกอบเป็นกำในช่วงสภาวะภัยแล้ง
นางสว่าง เปิดเผยว่า ปีนี้สถานการณ์ภัยแล้งรุนแรงกว่าทุกปีส่งผลให้พืชผักนานาชนิดในตลาดเริ่มเป็นราคา เพราะผักขาดแคลนเข้าสู่ตลาดน้อย ตนจึงถือโอกาสปลูกพืชผักสวนครัวที่ใช้น้ำน้อย ด้วยการปลูก พริกหยวก ในพื้นที่ 5 ไร่ โดยเริ่มปลูกมาตั้งแต่เดือนตุลาคมปีที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบัน ขณะนี้พริกหยวกต่างออกผล สีเขียว ลูกดก พร้อมจำหน่าย โดยมี แม่ค้า พ่อค้า จากตลาดสดเมืองสกลนคร สั่งพริกหยวกเข้ามาจำนวนมาก โดยราคาขายส่งอยู่ที่ กิโลกรัม ละ 15 บาท ถุงละ 12 กิโลกรัม ราคา 180 บาทต่อถุง ในหนึ่งวัน ขายได้ 3-4 ถุง หรือ ตกวันละ 600-700 บาท
นอกจากจะปลูกพริกหยวกแล้วในพื้นที่ยังแบ่ง ปลูกผัก คะน้า ควบคู่กันไปด้วย เพื่อเพิ่มรายได้ อย่างไรก็ตามในระยะนี้ถือว่ายังโชคดีที่ยังพอมีน้ำบาดาลใช้รดผัก ซึ่งคาดว่าจะสามารถใช้ได้ถึงเดือนเมษายน สามารถผลิตและป้อนผักให้กับแม่ค้า พ่อค้าผัก ในตลาดเมืองสกลนคร ซึ่งสาเหตุที่ แม่ค้า พ่อค้า มารับซื้อผักกับตน เนื่องจากมีต้นทุนถูกกว่ารับมาจากทางภาคเหนือ สดและปลอดสารพิษ อย่างไรก็ตามถือว่าช่วงนี้พลิกวิกฤตเป็นโอกาสจากสภาวะภัยแล้ง ด้วยการปลูกผักขาย ทำให้มีรายได้เพิ่มมากขึ้นกว่าเท่าตัวเลยทีเดียว