ตรังประกาศ 7 ตำบลเขตประสบสาธารณภัย หลังไฟไหม้โรงงานไทยกอง หวั่นมลพิษทางอากาศ

เมื่อวันที่ 5 กุมภาพันธ์ ผู้สื่อข่าวได้รายงานสถานการณ์ล่าสุดจากกรณีไฟไหม้โกดังไทยกองถุงมือแพทย์ เลขที่ 85 ม.6 ต.ควนธานี อ.กันตัง จ.ตรัง มีการจัดตั้งเวรยามเจ้าหน้าที่เข้าไปปฎิบัติการระงับควันไฟที่ยังคงคุกรุ่นพวยพุ่งออกจากบริเวณอาคารอย่างต่อเนื่อง โดยบริเวณส่วนหน้าอาคารมีการนำรถแบ๊กโฮมาทำการรื้อส่วนที่เป็นตัวอาคารออก ในขณะที่ชาวบ้านหลายคนยังคงเฝ้าติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด มีการนำผ้าปิดจมูกมาปิด หวั่นว่าควันจากเปลวเพลิงสีดำจะส่งผลต่อสุขภาพที่กระจายไปตามพื้นที่ใกล้เคียง

เช้าวันเดียวกัน นายศิริพัฒ พัฒกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง กล่าวถึงสถานการณ์ว่า วันนี้ได้มีการนำรถแบ๊กโฮของชลประทานมาทำลายโครงสร้างอาคารที่เป็นสิ่งกีดขวางลงมาหมดแล้ว ได้รีบนำรถตักหนีบสิ่งกีดขวางทั้งหลายนำออกไปวางที่อื่น ถุงมือกล่องอะไรต่างๆ ทำให้ระบายและเผาผลาญได้ดีขึ้น ซึ่งได้รีบนำไฟออกไปให้เร็วที่สุด ผลกระทบทางชาวบ้านรับได้เนื่องจากเข้าใจดีว่าเกิดจากอะไร หากไม่ไหวให้ชาวบ้านรีบย้ายไปอยู่บ้านญาติที่อื่นก่อน ส่วนความน่าเป็นห่วงคลายไป 70% แล้ว เหลืออีก 30% ให้เป็นไปตามธรรมชาติยาง ยังต้องใช้เวลานาน สำหรับถุงมือแพทย์ยังคงมีอีกเยอะ แต่ประมาณว่า 50% สงบแล้ว เหลืออีก 50% ยังเป็นควันอยู่ และยังมีไฟอยู่ประมาณ 20% นอกนั้นเป็นควัน

“ล่าสุดผมลงนามประกาศเขตพื้นที่ประสบสาธารณภัยในพื้นที่อำเภอกันตังแล้วจำนวน 7 ตำบล รวม 41 หมู่บ้าน ประกอบด้วย ตำบลควนธานี จำนวน 6 หมู่บ้าน ตำบลบางหมาก 6 หมู่บ้าน ตำบลบางเป้า 7 หมู่บ้าน ตำบลโคกยาง 8 หมู่บ้าน ตำบลคลองชีล้อม 5 หมู่บ้าน ตำบลวังวน 5 หมู่บ้าน ตำบลย่านซื่อ 4 หมู่บ้าน เพื่อให้ส่วนราชการ หน่วยงาน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และภาคเอกชนที่เกี่ยวข้องเข้าดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ในเขตพื้นที่ประสบภัยภายใต้ พ.ร.บ.ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย พ.ศ.2550 ซึ่งจะได้ให้ความช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากมลพิษโดยเบื้องต้น ส่วนมูลค่าที่เสียหายเฉพาะโครงสร้างกว่า 100 ล้านบาท ซึ่งยังไม่รวมสินค้าถุงมือที่เตรียมส่งลูกค้ายังไม่สามารถประเมินค่าได้ ต้องรอตรวจสอบอีกครั้งหนึ่ง” นายศิริพัฒกล่าว

สำหรับอาคารเก็บถุงมือซึ่งเป็นโครงสร้างที่เป็นวัสดุเสียหาย 100% หรือคิดเป็น 15-20% ของโครงสร้างอาคารทั้งหมดในโรงงาน ซึ่งความเสียหายของโกดังเก็บสินค้าถุงมือใกล้ๆ 100 ล้านบาท ยังไม่นับรวมผลิตภัณฑ์รอโรงงานประเมินมูลค่า ซึ่งก็คิดว่ามีประกันภัยแต่ไม่ทราบจำนวน ซึ่งหลังจากนี้ทางสาธารณสุขต้องมาดูแลสุขภาพประชาชน แรงงานต้องมาดูสวัสดิการแรงงาน ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยต้องมาดูประกาศคำสั่ง ทั้งอำเภอ ท้องถิ่น

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image