เมื่อวันที่ 5 กุมภาพันธ์ ชาวบ้านในชุมชนหาดทรายแก้ว หมู่ที่ 1 ต.หัวเขา อ.สิงหนคร จ.สงขลา ยังคงได้รับผลกระทบจากคลื่นลมแรงที่ซัดเข้าหาฝั่ง และระดับน้ำทะเลหนุนสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้บ้านเรือนของชาวประมงพื้นบ้านที่ตั้งเรียงรายตามแนวชายหาด ถูกคลื่นซัดจมหายลงไปในทะเล โดยพบบ้านที่พังเสียหายไม่สามารถอยู่อาศัยได้ 20 หลัง รวมชาวบ้านเกือบ 100 คนต้องขนย้ายข้าวของอพยพไปพักอาศัยกับญาติพี่น้องชั่วคราว จนกว่าคลื่นลมจะสงบ เบื้องต้นพบคลื่นยังได้กัดเซาะถนนลาดยาง และเสาไฟฟ้าภายในหมู่ได้รับความเสียหายด้วย
นางจรวย สังข์ทอง อายุ 66 ปี ชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบ กล่าวว่า คลื่นลมในทะเลมีกำลังแรงมากที่สุดในรอบ 40 ปี โดยคลื่นลมในทะเลเริ่มโหมซัดเข้าหาฝั่งอย่างรุนแรงตั้งแต่วันที่คืนวันที่ 3 กุมภาพันธ์ กระทั่งล่าสุดยังไม่มีแนวโน้มคลื่นจะสงบ โดยคลื่นซัดบ้านเรือนและสิ่งปลูกสร้างของชาวบ้านจมหายลงไปในทะเล บ้านของตนถูกคลื่นซัดจมหายไปทั้งหลัง เหลือเพียงศาลพระภูมิหน้าบ้าน ทั้งๆที่อยู่ห่างทะเลกว่า 100 เมตร แต่โชคดีเพื่อนบ้านช่วยพาหนีออกไปจากบ้านได้ทัน ส่วนบ้านที่เหลือได้รับความเสียหายอย่างหนัก
นายสมนิตย์ สุขแก้ว ปลัดอำเภอสิงหนคร ฝ่ายป้องกันปราบปราม กล่าวว่า ในวันนี้อำเภอสิงหนครลงพื้นที่สำรวจความเสียหายของชาวประมงพื้นบ้าน 20 ครัวเรือน และช่วยขนของอพยพไปพักอาศัยกับญาติแต่ละคนชั่วคราว จนกว่าจะปลอดภัย พร้อมเร่งรัดให้เทศบาลเมืองสิงหนคร จ่ายเงินเยียวยาช่วยเหลือผู้ประสบภัยของงวดที่ผ่านมาในช่วงปลายปี 2560 แล้ว 52 ครัวเรือน ครัวเรือนละไม่เกิน 33,000 บาท ซึ่งคาดว่าจะสามารถเบิกจ่ายให้ได้ภายในสัปดาห์นี้ เพื่อช่วยบรรเทาความเดือดร้อนของชาวบ้าน และนำไปใช้ซ่อมแซมบ้านเรือนเฉพาะหน้าไปก่อน
“ครั้งนี้จะทยอยจ่ายให้ในครั้งถัดไป หากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมีงบประมาณมาเพียงพอ ก็สามารถประสานอำเภอ เพื่อขอเงินทดรองราชการให้สามารถจ่ายเงินเยียวยาได้ตามระเบียบที่กำหนด จะเร่งหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อหาทางแก้ไขปัญหาในระยะยาวต่อไป” นายมานิตย์กล่าว
