ปลัดอำเภอพบพระ นำกำลังตำรวจ สภ.พบพระ จับคนไทยและเมียนมา รวม 3 คน กำลังเผาไร่อ้อย ฝืนมาตรการห้ามเผา 60 วัน เป็นรายแรก
เมื่อกลางดึกวันที่ 11 กุมภาพันธ์ นายรัตนกุล สังขศิลา ปลัดอำเภอฝ่ายความมั่นคงอำเภอพบพระ จังหวัดตาก ได้รับรายงานจากเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองในพื้นที่ว่า มีชาวไร่อ้อยลักลอบเผาป่า บริเวณถนนสายพบพระ-บ้านดอนเจดีย์ หลักกิโลเมตรที่ 5 หมู่ 12 ตำบลช่องแคบ โดยกำลังเผาไร่อ้อย มีเปลวไฟสว่างไปทั่วบริเวณ จึงรีบไปแจ้งความต่อ พ.ต.ท.ชัยวิวัตน์ วัฒธนะคำรณ พนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรพบพระ และนำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจร่วมกับฝ่ายปกครองพบพระ เข้าตรวจสอบพื้นที่เกิดเหตุ พบชาย 3 คนกำลังเผาไร่อ้อย จึงแสดงตัวจับกุม ทราบชื่อต่อมาคือ นายภาณุภูมิ นาคกระจ่าง อายุ 24 ปี ชาวไทยในพื้นที่, นายจ่อหละ อายุ 46 ปี และนายตองมิ อายุ 39 ปี โดยทั้ง 2 คนหลังเป็นแรงงานต่างด้าว สัญชาติเมียนมา ภายหลังการตรวจค้นกระเป๋าเสื้อนายภาณุภูมิพบของกลางเป็นไฟแช็ก 1 อัน
เจ้าหน้าที่นำตัวทั้ง 3 คน มอบให้สถานีตำรวจภูธรพบพระเพื่อดำเนินคดีในข้อกล่าวหาจุดไฟเผาป่า และเผาที่โล่ง พร้อมทั้งฝ่าฝืนมาตรการห้ามเผา 60 วันอันตราย ของจังหวัดตาก ระหว่างวันที่ 10 กุมภาพันธ์-10 เมษายน 2561 ถือเป็นรายแรกของจังหวัดตากที่ถูกจับกุม
สำหรับมาตรการห้ามเผา 60 วันอันตรายของจังหวัดตากครั้งนี้ นายเจริญฤทธิ์ สงวนสัตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดตาก ได้สั่งการให้นายอำเภอทั้งหมดเข้มงวดกวดขันผู้ลักลอบเผาไร่อ้อย และเผาป่าทุกพื้นที่ หากพบจะต้องจับกุมดำเนินคดีทันที
สำหรับอำเภอแม่สอด จังหวัดตากนั้น นายชัยพฤกติ์ เชียรธานรักษ์ นายอำเภอแม่สอด สั่งการให้ปลัดอำเภอแจ้งความดำเนินคดีที่ สภ.แม่สอด กับผู้ลักลอบเผาป่า เผาไร่ บริเวณบ้านห้วยกระโหลก ตำบลแม่ปะ ทางไปสะพานมิตรภาพไทย-เมียนมา แห่งที่ 2 อีกราย เนื่องจากเมื่อวันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2561 มีผู้ลักลอบเผาไร่อ้อย เป็นพื้นที่ราว 50 ไร่ และตรงกับวันแรกของมาตรการห้ามเผา 60 วัน เพื่อป้องกันปัญหาไฟป่า และหมอกควัน ของจังหวัดตากด้วย
