เมื่อเวลา 18.00น. วันที่ 13 ก.พ. ศูนย์วิทยุสื่อสาร สภ.เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี รับแจ้งว่ามีอุบัติเหตุบนถนนทวีราษฎร์ภักดี เยื้องกับหน่วยบริการประชาชนบ้านแม่น้ำ ม.1 ต.แม่น้ำ ทำให้มีผู้เสียชีวิตในที่เกิดเหตุเป็นชาวต่างชาติ 1 ราย จากนั้นจึงได้แจ้งให้ ร.ต.อ.สุพิศ ช่อผกา รองสารวัตรสอบสวน พร้อมด้วย อาสาสมัครมูลนิธิกู้ภัยกุศลสงเคราะห์เกาะสมุย รุดตรวจสอบที่เกิดเหตุ
โดยภาพจากกล้องวงจรปิดของหน่วยบริการประชาชนสามารถบันทึกภาพขณะเกิดเหตุได้ โดยมีรถจักรยานยนต์สีดำ คนขี่ใส่เสื้อสีขาว สวมหมวกกันน็อคสีขาว วิ่งมุ่งหน้าไปทางต.บ่อผุด ขณะเดียวกันรถจักรยานยนต์คู่กรณีสีน้ำเงิน คนขี่ใส่เสื้อสีดำ สวมหมวกกันน็อคสีดำ วิ่งออกมาจากปากซอยข้ามถนนไปช่องทางฝั่งตรงข้าม เป็นจังหวะที่รถจักรยายนต์สีดำวิ่งมาด้วยความเร็วได้เบรครถอย่างกระทันหันจนรถล้มไถลไปไกลกว่า 20 เมตร และศรีษะของคนขี่ไปกระแทกกับบริเวณพักที่เท้าของรถจักรยานยนต์สีน้ำเงินจนหมวกกันน็อคแตกและรถล้มได้ด้วยกัน
หลังเกิดเหตุ ร.ต.อ.สมพิศ รองสารวัตรสอบสวน ได้ตรวจสอบที่เกิดเหตุ และเร่งระบายการจราจรบริเวณดังกล่าวติดขัดเป็นระยะทางยาว โดยมีคู่กรณีที่ขี่รถจักรยานยนต์สีน้ำเงิน หมายเลขทะเบียน 3กธ 681 กรุงเทพมหานคร ได้รอพบกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทราบชื่อว่า นายปองภพ พิณพาทย์ อายุ 30 ปี อยู่บ้านเลขที่ 43/1 ม.1 ต.แม่นำ อ.เกาะสมุย ไม่ได้รับบาดเจ็บแต่อย่างใด ส่วนรถจักรยายนต์สีดำ หมายเลขทะเบียน 1กธ 121 สุราษฎร์ธานี ผู้ขี่ทราบชื่อว่า นายโอลิเวย์ ออเน (Mr.Olivier Aunay) อายุ 54 ปี สัญชาติฝรั่งเศส ได้เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ
จากการสอบถามเพื่อนของนายโอลิเวย์ ผู้เสียชีวิต กล่าวว่า นายโอลิเวย์ เปิดร้านอาหารฝรั่งเศสบนเกาะสมุยหลายร้าน ก่อนเกิดเหตุนายโอลิเวย์ได้ขี่รถจักรยานยนต์มาจากบ้านละไม ต.มะเร็ต เพื่อพูดคุยตกลงซื้อขายร้านอาหารของชาวเยอรมันที่สำนักงานทนายความแห่งหนึ่งในต.แม่น้ำ หลังจากคุยเสร็จนายโอลิเวอร์ก็ได้เดินทางกลับ ที่แรกนายโอลิเวอร์ได้ใช้เส้นทางมุ่งหน้าไปทางบ้านหน้าทอน แต่ได้เกิดเปลี่ยนใจโทรศัพท์มาบอกเพื่อนว่า จะวิ่งเส้นทางลัดไปบ้านละไมแทน จึงได้หันหัวรถกลับก่อนจะมาเกิดเหตุสลดดังกล่าว
ส่วนนายปองภพ คู่กรณี บอกว่า ตนเองขึ้รถจักรยานยนต์ออกมาจากบ้านและกำลังข้ามถนนไปฝั่งตรงข้ามรถอยู่กลางถนน ได้มีรถจักรยานยนต์คู่กรณีขี่มาด้วยความเร็วและเบรคจนรถล้ม ใบหน้าของคนขี่ได้มากระแทกกับพักเท้าด้านหลัง ตอนนี้นั้นผู้เสียชีวิตนอนคว่ำหน้าอยู่กับพื้นเลือดไหลนองและหายใจไม่ออก แต่ช่วงนั้นก็ไม่มีใครกล้าเข้าไปช่วยจนเสียชีวิตดังกล่าว
