สุดรันทด! หนูน้อย 5 ขวบหกล้มถูกเพื่อนเหยียบซ้ำเสี่ยงพิการ ทิ้งยายพิการเลี้ยงคนเดียว

สุดรันทด! หนูน้อยวัย 5 ขวบประสบอุบัติเหตุขาหัก เบ้าสะโพกหลุด ก่อนจะไม่ยอมลุกเดินร่วม 2 เดือน ทั้งแสดงอาการต่อต้านคนแปลกหน้า อยู่กับยายพิการหูหนวก ตาติดเหล้า หาเช้ากินค่ำพอประทังชีวิต ส่วนแม่ติดคุกคดียาเสพติด ด้านผู้นำชุมชนเร่งหาทางเยียวยา ประสานทีมแพทย์-พยาบาลช่วยเหลือเร่งกายภาพก่อนพิการถาวร

วันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2561 ที่บ้านนากุดสิมพัฒนา นางดวงมาลา แสงกล้า ผอ.รพ.สต.บ้านจอมศรี นางดวงพร บุญธรรม ผอ.รพ.สต.บ้านนากระเดา และนายสยามศรี ภูดี ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 8 บ้านนากุดสิมพัฒนา ต.สายนาวัง อ.นาคู จ.กาฬสินธุ์ นำคณะผู้นำท้องถิ่น ผู้นำชุมชน และประชาชนในพื้นที่เข้าเยี่ยมและสำรวจความเป็นอยู่ของครอบครัวนางสุดารัตน์ พรมสาขา ณ สกลนคร อายุ 48 ปี ที่พิการหูหนวก ต้องแบกรับภาระเลี้ยงดูหลานชายวัย 5 ขวบ ด.ช.นพดล วิเศษศรี ไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ และต้องทุกข์ทรมานจากอาการเจ็บปวดร้องไห้เกือบตลอดเวลา หลังประสบอุบัติเหตุล้มจนขาหัก เบ้ากระดูกสะโพกหลุด ตั้งแต่เดือนธันวาคม 2560

โดยนางศุภิฌาณ์ฐฏี สารผล ปลัดองค์การบริหารส่วนตำบลสายนาวัง ได้สอบถามข้อมูลเพื่อหาแนวทางช่วยเหลือ ขณะที่นายบำรุง คะโยธา ประธานคณะกรรมการจิตอาสาประชารัฐ จ.กาฬสินธุ์ พร้อมเจ้าหน้าที่คณะกรรมการ ได้นำเงินทุนมามอบช่วยเหลือให้กับครอบครัวเพื่อเป็นการบรรเทาความเดือดร้อนเบื้องต้น และพร้อมที่จะยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือในทุกๆ ด้าน โดยเฉพาะการรักษา ด.ช.นพดล ที่ต้องเร่งดำเนินการก่อนที่จะเป็นคนพิการถาวร

Advertisement

นายบำรุง คะโยธา ประธานคณะกรรมการจิตอาสาประชารัฐ จ.กาฬสินธุ์ กล่าวว่า จากการสอบถาม ทราบว่าพ่อและแม่ของเด็กได้แยกทางกัน ส่วนแม่คือนางดัชนี ศรีแพน ตอนนี้ต้องโทษอยู่ในเรือนจำคดียาเสพติด ส่วนเด็กก็มียายและตาเป็นผู้ดูแล โดยยายคือนางสุดารัตน์ พรมสาขา ณ สกลนคร พิการหูหนวก มีการสื่อสารกันค่อนข้างยากลำบาก และนายธันวา ภูดี ผู้เป็นตาติดสุรา เป็นครอบครัวยากจน ที่นา ไร่ สวนขายไปหมดเหลือเพียงบ้านหลังเล็กๆ ที่อยู่อาศัย ออกหาเก็บของป่า ผัก และฟืนไปขายตามตลาด ตามหมู่บ้าน พอได้เงินมาซื้อข้าวและอาหารกินประทังชีวิตกันไป

“อาการป่วยของเด็กมาจากการหกล้มและถูกเพื่อนนักเรียนในศูนย์เด็กเล็กฯ เหยียบซ้ำจนขาหัก โดยได้ส่งตัวเข้ารับการรักษาที่ รพ.กาฬสินธุ์ เข้าเฝือกนานถึง 22 วัน แต่เมื่อถอดเฝือกออกแล้วยังเดินไม่ได้ และเด็กเองก็ทุกข์ทรมานกับการเจ็บปวด มักจะร้องไห้อยู่ตลอดเวลา นอกจากนี้ยังพบว่าจากเดิมเป็นเด็กสดใสร่าเริง ตอนนี้เริ่มกลัวคนแปลกหน้าเพราะเกรงว่าจะเข้ามาจับขาจับตัวให้เจ็บปวด โดยเฉพาะอย่างยิ่งการกายภาพบำบัด เป็นเวลาจะย่างเข้าสู่เดือนที่ 3 ยังไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้เหมือนเด็กปกติทั่วไป ขาเริ่มลีบและเล็กลง ขาซ้ายสั้นกว่าขาขวา 3 ซม. ทางญาติที่อยู่ในชุมชนบ้านข้างเคียงทนเห็นสภาพไม่ไหว ได้ยื่นหนังสือร้องขอความช่วยเหลือไปยังหน่วยงานต่างๆ เพราะเกรงว่าเด็กจะพิการ ขณะที่ครอบครัวก็ยากจนอีกด้วย” นายบำรุงกล่าว

Advertisement

ด้านนายสยามศรี ภูดี ผู้ใหญ่บ้าน กล่าวว่า สำหรับครอบครัวนี้ ได้เก็บข้อมูลและส่งเรื่องเข้าไปยังอำเภอนาคู เพื่อหาแนวทางช่วยเหลืออีกทางหนึ่งตามโครงการคนกาฬสินธุ์ไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง สำหรับครอบครัวนี้มีความยากจนมาก หาเช้ากินค่ำ รายได้มาจากการเก็บผัก เก็บฟืน และของป่ามาจำหน่าย ได้บ้างไม่ได้บ้าง ไม่มีที่ดินทำกิน อีกทั้งความไม่สมประกอบของร่างกาย ยังเป็นปัญหาในการใช้ชีวิต และยิ่งหลานชายมาป่วยอีกยิ่งเพิ่มภาระการดูแลเข้ามา เป็นครอบครัวที่ต้องการความช่วยเหลือ โดยเฉพาะ ด.ช.นพดล ถ้ายังปล่อยไว้อย่างนี้เด็กคงจะพิการ จึงต้องหาทางช่วยเหลือ ที่ผ่านมาได้ประสาน รพ.สต.บ้านจอมศรี รพ.สต.บ้านนากระเดา และ รพ.นาคู เข้ามาช่วยเหลือ แต่ยังมีปัญหาหลายด้านทำให้การรักษาไม่ต่อเนื่อง

สำหรับผู้มีจิตศรัทธา มีความประสงค์ช่วยเหลือครอบครัว ด.ช.นพดล สามารถโอนเงินเข้าบัญชีธนาคาร ธ.ก.ส.สาขานาคู หมายเลขบัญชี 020016317244 ชื่อบัญชีนางสุดารัตน์ พรมสาขา ณ สกลนคร หรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมที่หมายเลขโทรศัพท์ 09-8606-7754 โดยผู้นำชุมชนและเครือข่ายจิตอาสาประชารัฐจะได้ร่วมกันเข้ามาดูแลอย่างต่อเนื่อง เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นของครอบครัวนี้ โดยเฉพาะอาการเจ็บป่วยของ ด.ช.นพดล ที่จะต้องได้รับการรักษาโดยหมอเฉพาะทาง เพื่อที่จะบรรเทาอาการและไม่เป็นผู้พิการถาวร ทั้งนี้ หากได้รับการบำบัดรักษาและกายภาพบำบัดทันท่วงทีก็อาจโชคดีมีโอกาสหายเป็นปกติ

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image