เมื่อวันที่ 27 กุมภาพันธ์ จากกรณีคุณยายประดับ จันทร์อ่วม อายุ 72 ปี มีอาชีพขายน้ำพริก เข้าแจ้งความที่ สภ.สามชุก จ.สุพรรณบุรี ว่าทำลอตเตอรี่หายหลังจากไปช่วยงานวัดบางขวาก เมื่อวันที่ 29 พฤศจิกายน 2560 ต่อมาลอตเตอรีดังกล่าวถูกรางวัลที่ 1 ซึ่งปรากฏว่า มีหญิงสาวซึ่งเป็นเครือญาติกันนำลอตเตอรี่รางวัลที่ 1 เลข 451005 ไปขึ้นเงินที่กองสลาก 6 ล้านบา่ท
ล่าสุด พ.ต.อ.นิมิตร แสงอรุณ รอง ผบก.ภ.จว.สุพรรณบุรี หัวหน้าพนักงานสอบสวนในคดี เปิดเผยว่า ขณะนี้เจ้าหน้าที่ได้รวบรวมพยานหลักฐานในคดีทั้งหมดเรียบร้อยแล้ว และจะส่งสำนวนให้อัยการเพื่อพิจารณาในต้นเดือนมีนาคมนี้ ซึ่งจากการรวบรวมสำนวนทั้งหมด พนักงานสอบสวนมีความเห็นว่าลอตเตอรี่เป็นของยายประดับ จันทร์อ่วม ส่วนน.ส.พรทิพย์ ที่นำลอตเตอรี่ไปขึ้นเงินนั้น พนักงานสอบสวนได้ออกหมายจับแล้วเมื่อต้นเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา พร้อมแจ้งข้อกล่าวหา ยักยอกทรัพย์ และ หลบหนีหมายเรียก หลังจากออกหมายเรียกเชิญตัวมาแล้ว 2 ครั้ง จากการตรวจสอบพบว่า น.ส.พรทิพย์หลบหนีออกนอกพื้นที่ไปแล้ว
รายงานข่าวแจ้งว่า เมื่อช่วงเช้าวันที่ 26 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ตำรวจกองปราบปราม นำโดย พ.ต.อ.ภูมินทร์ พุ่มพันธ์ม่วง ผกก.5 บก.ป.พร้อมกำลัง นำหมายศาลเข้าตรวจค้นบ้านเลขที่ 66/9 หมู่ 9 ต.ย่านยาว อ.สามชุก จ.สุพรรณบุรี ซึ่่งเป็นบ้านของน.ส.พรทิพย์ ปาลวงษ์ หรือ เม้ง โดยมีพ่อแม่ของนางพรทิพย์อยู่ที่บ้าน ซึ่งเปิดเป็นร้านค้า โดยตำรวจกองปราบพบเงินสดภายในบ้านกว่า 3 แสนบาท รวมถึงทองรูปพรรณจำนวนหนึ่ง จึงทำการอายัดไว้ และนำไปลงบันทึกประจำวันที่ สภ.สามชุกด้วย ส่วน น.ส.พรทิพย์ มีรายงานว่าหลบหนีไปอยู่ประเทศเนเธอร์แลนด์กับสามีตั้งแต่เมื่อต้นปีที่ผ่านมาแล้ว ก่อนตำรวจออกหมายจับ
ส่วนจากการตรวจสอบ พบว่าบัญชีเงินฝากของน.ส.พรทิพย์ ถูกถอนเงินออกไปจนหมดแล้วตั้งแต่ต้นเดือนธันวาคม 2560 มียอดเงินในบัญชีเหลือ 0 บาท โดยน.ส.พรทิพย์นำล็อตเตอรีดังกล่าวไปขึ้นเงินที่กองสลาก เมื่อช่วงบ่ายของวันที่ 3 ธันวาคม 2560 ก่อนไปขึ้นเงินได้และเปิดบัญชีใหม่ที่ธนาคารแห่งหนึ่งใกล้กองสลาก จากนั้นวันที่ 4 ธันวาคม น.ส.พรทิพย์ได้เบิกเงินสดก้อนแรกจำนวน 1 ล้านบาท ต่อมาเบิกเงินอีก 4.9 ล้าน และเบิกเงินเหลือก้อนสุดท้ายออกไปอีก 69,000 บาท โดยทั้งหมดเบิกออกมาเป็นเงินสดไม่ได้มีการโอนเข้าบัญชีผู้อื่นแต่อย่างใด
จากการสอบถาม นางประยูร หรือ แมว บุตรสาวของยายประดับ จันทร์อ่วม กล่าวว่า ปัะจจุบันยายประดับไปพักอาศัยที่ กทม. ซึ่งตนทราบว่ามีการออกหมายจับน.ส.พรทิพย์ และ ผลเบื้องต้นจากการรวบรวมพยานหลักฐานทราบว่าลอตเตอรี่เป็นของยายประดับ ซึ่งตนได้บอกแม่ไปแล้ว รู้สึกเสียใจมาก แต่ก็ไม่รู้จะทำอย่างไร เพราะน.ส.พรทิพย์เบิกเงินไปหมดแล้ว เมื่อผลออกมาแบบนี้ จึงไม่รู้ว่าจะทำอย่างไร เนื่องจากตั้งแต่วันที่ไปแจ้งความ ไม่ได้มีการสั่งอายัดเงิน ทำให้น.ส.พรทิพย์หรือ เม้ง ไปเบิกเงินได้ ทั้งๆที่ตนมีพยานหลักฐานจากบุคคล และไปร้องกองปราบปรามให้เปลี่ยนพนักงานสอบสวน หลังจากนั้นมีการดำเนินเรื่องเรื่อยมาถึงวันนี้
“ผลออกมาแบบนี้ ครอบครัวได้แต่ทำใจ เพราะลอตเตอรี่เป็นของยายจริง แต่ยังรู้สึกเสียใจมากว่า ทำไมพรทิพย์ ซึ่งเป็นเครือญาติกัน ถึงทำกันแบบนี้ได้ ที่ผ่านมายายประดับยังเคยไปช่วยงานแต่ง ทำขนมชั้น งานบวชหลานครอบครัวเขา ยายประดับก็ไปช่วยงานตลอด เพราะเป็นแม่ครัว เมื่อรู้ว่าตัวเองเก็บไว้ทำไมไม่คืนเจ้าของ หรือ ตกลงกันดีดี เราไม่ใช่คนใจดำอะไร แต่กลับไปขึ้นเงิน ไม่ยอมรับว่าเก็บลอตเตอรี่ได้ แต่อย่างไรก็ตาม คงสู้คดีกันต่อไป และปล่อยให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการไปตามกระบวนการทางกฎหมาย แม้วันนี้เงิน 6 ล้านบาทที่ถูกรางวัลจะไม่ได้ใช้ก็ตาม” นางประยูร กล่าว
