เมื่อวันที่ 27 กุมภาพันธ์ ที่ห้องประชุม 2 ชั้น 5 อาคารสำนักงานท่าอากาศยานภูเก็ต อ.ถลาง จ.ภูเก็ต นายพงษ์ภาณุ เศวตรุนทร์ ปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา พร้อมนายสันติ ป่าหวาย รองอธิบดี เข้าประชุมหารือการปิดซ่อมแซมรันเวย์สนามบินนานาชาติภูเก็ต และความปลอดภัยนักท่องเที่ยวบริเวณชายหาด ร่วมกับนายประกอบ วงศ์มณีรุ่ง รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต พร้อมคณะ ประกอบด้วยนางศิรวี วาเล๊าะ ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดภูเก็ต, พ.ต.อ.วิทูรย์ กองสุดใจ รอง ผบก.ภ.จว.ภูเก็ต, นายเสถียร แก้วพระปราบ รองปลัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดภูเก็ต, นางกนกกิตติกา กฤตย์วุฒิกร ผู้อำนวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานภูเก็ต, ร.ท.สัมพันธ์ ขุทรานนท์ รองผู้อำนวยการท่าอากาศยานภูเก็ต สายปฏิบัติการและบำรุงรักษา, นายสรายุทธ มัลลัม ประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ต ตลอดจนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งภาครัฐและเอกชนเข้าร่วม
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ผู้เข้าร่วมประชุมแจ้งว่าส่วนใหญ่คนเข้าใจความจำเป็นเร่งด่วนโดยเฉพาะเรื่องความปลอดภัย แต่ฝากเรื่องการบริหารจัดการ เนื่องจากพบความสับสนและวุ่นวายค่อนข้างมาก รวมถึงการสื่อสารกับหน่วยงานภายนอกเพื่อให้เกิดความเข้าใจในวงกว้าง โดยเฉพาะกลุ่มโรงแรมที่พัก บริษัทนำเที่ยว และ มัคคุเทศก์ ซึ่งเป็นผู้ใกล้ชิดกับนักท่องเที่ยวมากที่สุด โดยไม่ควรแจ้งในระยะเวลากระชั้นชิด เพราะทำให้ผู้ไม่ทราบมาถึงสนามบินตามเวลาเดิม ทำให้ต้องมารออยู่ในพื้นที่จำกัดเป็นเวลานาน
นายพงษ์ภาณุ เศวตรุนทร์ กล่าวว่า กรณีสนามบินภูเก็ตปิดซ่อมรันเวย์ช่วงเวลา 02:00 – 07:00น. ของวันที่ 26-27 กุมภาพันธ์ 2561 นั้นทางรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวฯ มีความเป็นห่วงมาก ขณะนี้ถือว่าผ่านพ้นวิกฤตแล้ว แม้มีเหตุการณ์ความวุ่นวายสับสนและหวาดเสียวบ้างแต่ในภาพรวมถือว่าเป็นไปด้วยความเรียบร้อย ขอชื่นชมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งท่าอากาศยานภูเก็ต ทีมงานผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง และกระทรวงท่องเที่ยวเอง ที่ระดมสรรพกำลังเข้ามาอำนวยความสะดวกให้นักท่องเที่ยวที่ตกค้างในช่วงดังกล่าว
“จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เชื่อว่าจะเป็นบทเรียนให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องนำไปถอดบทเรียนและปรับปรุงการบริหารจัดการสถานการณ์ในอนาคตให้ดียิ่งขึ้น โดยเฉพาะเรื่องการสื่อสารข้อมูลไปยังนักท่องเที่ยวและผู้ประกอบการที่เกี่ยวข้อง เพื่อไม่ต้องเดินทางมารอที่สนามบินเป็นเวลา 4-5 ชั่วโมง โดยต้องมีระบบการสื่อสารถึงกันที่รวดเร็ว ถึงตัวนักท่องเที่ยวได้มากขึ้น ปัจจุบันพบว่ามีการแจ้งผ่านทางกลุ่มไลน์ขององค์กรท่องเที่ยวไปยังผู้ประกอบโดยตรง ซึ่งได้ผลระดับหนึ่งแต่ยังมีนักท่องเที่ยวมาตกค้างที่สนามบินพอสมควร และมีบางจุดที่นักท่องเที่ยวแออัดกันอยู่เป็นจำนวนมากๆ ซึ่งมีเสียงบ่นเสียงต่อว่ามาบ้าง”
นายพงษ์ภาณุ กล่าวอีกว่า หากในอนาคตมีความจำเป็นต้องปิดซ่อมรันเวย์อาจต้องมีระบบการแจ้งที่ดีกว่านี้ และควรต้องแจ้งล่วงหน้า แต่ครั้งนี้เป็นการซ่อมฉุกเฉินรู้ล่วงหน้าไม่นาน ทำให้อาจไม่ทั่วถึง แต่หากไม่ตัดสินใจซ่อมอาจมีเหตุการณ์ที่เลวร้ายกว่านี้ ซึ่งต้องขอชื่นชมท่าอากาศยานภูเก็ตที่ตัดสินใจได้ถูกต้อง และสามารถซ่อมแซมรันเวย์เสร็จตามเวลา ทำให้ขณะนี้ทุกอย่างกลับเข้ามาภาวะปกติแล้ว
