ครูปรีชาเปิดใจครั้งแรกหลังได้รับการประกันตัว เชื่อถูกออกหมายจับเพราะข้อมูลผิดพลาด

จากกรณีศาลอนุญาตให้ประกันตัวนายปรีชา ใคร่ครวญ หรือครูปรีชา ครูชำนาญการพิเศษ โรงเรียนเทพมงคลรังษี กับนางรัตนาพร สุภาทิพย์ หรือเจ๊บ้าบิ่น แม่ค้าขายลอตเตอรี่ พยานปากสำคัญฝ่ายครูปรีชา ได้รับการประกันตัวในคดีหวย 30 ล้านอลเวง เมื่อวันที่ 2 มีนาคมที่ผ่านมานั้น

ล่าสุดตั้งแต่ช่วงเช้าวันนี้ 5 มีนาคม ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปที่บ้านพักครูปรีชา ที่บ้านพักเลขที่ 143/22 หมู่ 3 ต.ปากแพรก อ.เมือง จ.กาญจนบุรี เพื่อดักรอสัมภาษณ์ครูปรีชา ภายหลังจากครูปรีชาได้รับการประกันตัว และไม่ยอมออกมาพบสื่อ โดยหายหน้าไปตั้งแต่ได้รับการประกันตัว กระทั่งเวลาประมาณ 07.00 น. ครูปรีชาได้เดินออกมาจากในบ้านเพื่อสวมรองเท้าแล้วเดินออกมาเปิดประตูบ้านเหมือนเช่นทุกครั้ง โดยครูปรีชาได้กล่าวว่า ตนของดให้สัมภาษณ์ใดๆ กับสื่อแล้ว เนื่องจากเลยเวลาที่จะให้สัมภาษณ์แล้ว

และระหว่างที่ครูปรีชาเดินมาเปิดประตูรั้วบ้าน ผู้สื่อข่าวก็พยายามสอบถามครูปรีชาถึงการต่อสู้คดีความ หลังได้รับการประกันตัว และพร้อมสู้ต่อหรือไม่ ครูปรีชากล่าวสั้นๆ ว่า “ครับ” พร้อมยิ้มให้กับผู้สื่อข่าว และกล่าวย้ำประโยคเดิมว่า ต่อไปนี้ตนของดให้สัมภาษณ์กับสื่อ ต้องขอโทษด้วย ขอตัวไปสอนหนังสือที่โรงเรียน จากนั้นได้เดินขึ้นรถพร้อมยกมือไหว้และรับไหว้สื่อ ก่อนจะขับรถกระบะโตโยต้า วีโก้ สีบรอนซ์ทอง 4 ประตู หมายเลขทะเบียน กจ 9885 กาญจนบุรี ออกไปทันที

Advertisement

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับวันนี้ครูปรีชาออกจากบ้านไปโรงเรียนเร็วกว่าปกติ จากเดิมจะออกประมาณ 08.10 น. แต่วันนี้ออกจากบ้านตั้งแต่ 07.00 น. ทั้งนี้หลังจากครูปรีชาได้รับการประกันตัวออกมา เมื่อวันที่ 3 มี.ค.ที่ผ่านมา ผู้สื่อข่าวก็ได้พบครูปรีชาในเช้าวันนี้เป็นครั้งแรก ถึงแม้วันนี้ครูปรีชาจะพยายามยิ้มให้นักข่าวเหมือนทุกๆ ครั้ง แต่สีหน้าของครูปรีชาบ่งบอกถึงความวิตกกังวลและไม่แจ่มใสเหมือนทุกๆ วันที่ผ่านมา

จากนั้นผู้สื่อข่าวได้ติดตามไปที่โรงเรียนเทพมงคลรังษี และได้พบกับครูปรีชาอีกครั้ง โดยครูปรีชาระบุว่า ไม่สามารถให้สัมภาษณ์ใดๆ ได้ในโรงเรียน เพราะถูกผู้บริหารตำหนิมา ผู้สื่อข่าวจึงขอพูดคุยสอบถามถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยครูปรีชาเปิดใจเป็นครั้งแรกว่า ตนเพิ่งจะกลับมาจากไปพักที่บ้านพี่ชายที่ กทม.เมื่อช่วงเย็นของวานนี้ เนื่องจากต้องการที่จะพักผ่อน และในวันนี้ก็มาทำงานตามปกติ เนื่องจากมีงานที่ต้องเคลียร์จำนวนมาก แต่ไม่ได้มีสอนหรือต้องคุมสอบแต่อย่างใด ที่สำคัญตนต้องทำรายงานเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นส่งผู้อำนวยการให้แล้วเสร็จภายในวันนี้

ทั้งนี้ตนไม่ได้รู้สึกกังวลใจหรือเครียดแต่อย่างใด การที่กองปราบนำตัวตนไป ตนมองว่าเหมือนเชิญตัวไปสอบปากคำเพิ่มเติมเท่านั้น และการที่ตำรวจออกหมายจับตน คาดว่าน่าจะเกิดจากข้อมูลที่ผิดพลาดหรือขาดข้อมูลในบางประเด็นที่ตนยังไม่ได้ให้การ ซึ่งเป็นอำนาจหน้าที่ของตำรวจที่จะสามารถออกหมายเรียกหรือหมายจับได้ ตนไม่ได้ว่าอะไร

Advertisement

อย่างไรก็ตาม ตำรวจไม่ได้มีอำนาจในการตัดสินว่าใครผิดหรือใครถูก ศาลเท่านั้นที่จะเป็นผู้วินิจฉัยตัดสิน ดังนั้นตนก็ขอต่อสู้ในชั้นศาลต่อไป ส่วนการที่สื่อเผยแพร่ข่าวว่าตนรับสารภาพนั้น ขอยืนยันว่าไม่เป็นความจริง และตนก็ไม่ขออธิบายหรือตอบคำถามใดๆ กับสื่ออีก เพราะยิ่งตนให้สัมภาษณ์ก็ยิ่งทำให้ได้รับผลกระทบ ดังนั้นก็ขออยู่เงียบๆ ไม่ให้สัมภาษณ์จะดีกว่า จากนั้นก็ขอตัวไปทำรายงานต่อ

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image