กลุ่มนักกฎหมายนิติธรรมและประชาชนผู้รักษ์ความเป็นธรรมจังหวัดสงขลา เข้ายื่นหนังสือเรียกร้องให้ดำเนินคดีกรณีเปรมชัยยิงเสือดำอย่างโปร่งใส
รายงานข่าวจากจังหวัดสงขลาเมื่อเวลา 08.30 น. วันที่ 6 มีนาคมนี้ ที่กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 9 ตัวแทนกลุ่มนักกฎหมายนิติธรรมและประชาชนผู้รักษ์ความเป็นธรรมจังหวัดสงขลา เดินทางเข้ายื่นหนังสือถึง พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เรื่องขอให้ดำเนินคดีกับนายเปรมชัย ด้วยความโปร่งใส กรณียิงเสือดำ โดยมีนายธนกฤต เหมสนิท ประธานกลุ่มฯ ตัวตัวแทนนิสิต ทั้งศิษย์เก่าและศิษย์ปัจจุบัน คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยทักษิณ และภาคประชาชน เข้าร่วม โดยได้ยื่นหนังสือผ่าน พ.ต.อ.โมหะมะอิดือเระ สาหวี รองผู้บังคับการอำนวยการตำรวจภูธรภาค 9 นอกจากนั้นยังได้เดินทางเข้ายื่นหนังสือถึงรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ผ่านนายรุ่งโรจน์ และสุบ ผู้อำนวยการกลุ่มงานศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดสงขลา กรณีเดียวกันอีกด้วย โดยทั้งสองหน่วยงานพร้อมจัดส่งหนังสือต่อไปทันที
สำหรับหนังสือนั้นมีใจความ ระบุว่า จากกรณีเจ้าหน้าที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวร จับกุมนายเปรมชัย กรรณสูต และพวก ขณะเข้าพักค้างแรมในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวรด้านตะวันตก อำเภอทองผาภูมิ จังหวัดกาญจนบุรี เมื่อ 4 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ซึ่งพบซากสัตว์ และอาวุธจำนวนหนึ่ง แต่จากวันที่จับกุมจนถึงขณะนี้ผ่านไปหนึ่งเดือน แต่การดำเนินคดีของเจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่สามารถคลายความสงสัยในเรื่องกระบวนการของการดำเนินคดีนายเปรมชัยและพวกได้ จนเกิดการวิพากษ์วิจารณ์อย่างแพร่หลายในเรื่อง สองมาตรฐาน อันเป็นข้อสงสัยที่รุนแรงต่อการดำเนินกระบวนการสอบสวนและกระบวนการยุติธรรม ซึ่งส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์ที่ดีของสำนักงานตำรวจแห่งชาติและรัฐบาล ทางกลุ่มจึงเข้ายื่นหนังสือเพื่อเร่งรัดดำเนินการ
นายธนกฤตกล่าวว่า คดีที่เกิดขึ้นนั้นได้รับความสนใจอย่างมากจากประชาชน แต่การดำเนินคดีนั้นทำได้ล่าช้ากว่าที่ควรจะเป็น อีกทั้งมีการดำเนินที่มีลักษณะสองมาตรฐาน ทำให้นักกฎหมายไม่สบายใจ จึงต้องเดินทางมายื่นหนังสือ หลังจากจับตาดูการดำเนินคดีมาแล้ว 1 เดือน แต่ไม่มีความชัดเจน โดยหลังจากยื่นหนังสือจะจับตาการดำเนินคดีนี้อย่างใกล้ชิด แม้ท่าทีของนายตำรวจระดับสูง จะสร้างความกังวลใจให้กับภาคประชาชนอย่างมาก แต่อยากจะเห็นการดำเนินคดีตามกฎหมายอย่างโปร่งใสและยุติธรรม
นายสุรเชษฐ บิลสัน ผู้ประสานงานกลุ่มฯ กล่าวว่า คดีนี้นั้นเป็นที่จับตามอง โดยเฉพาะท่าทีของ พล.ต.อ.ศรีวราห์ ทำให้สังคม รวมถึงนักกฎหมายอย่างเรากังวล เกรงจะไม่ได้รับความเป็นธรรม และความล่าช้า รวมถึงการลงโทษพนักงานสอบสวน การสอบสวนเพื่อลงโทษผู้จับกุม อันนี้เราไม่เห็นด้วย ส่วนระยะเวลาในการดำเนินคดีนั้น เราไม่ได้มีการขีดเส้นตาย เนื่องจากเข้าใจกระบวนการว่าจะต้องมีการรวบรวมพยานหลักฐาน แต่จะดูว่ามีความชัดเจนต่อเนื่องหรือการติดตามความคืบหน้า มีการฟ้องคดีเมื่อไหร่ หากช้าก็จะมีการยื่นหนังสือผ่านช่องทางที่กฎหมายกำหนดเอาไว้ โดยคดีนี้ ถูกมองว่ามีสองมาตรฐาน เช่น คดียายเก็บเห็ด ดำเนินคดีรวดเร็วแล้วเสร็จ ก็อยากให้ทำเช่นเดียวกัน ไม่ได้กังวลว่านายเปรมชัยจะผิดหรือไม่ แต่ให้มีการดำเนินการตามกฎหมาย ไม่ได้เน้นว่าเปรมชัยต้องผิดแต่เน้นให้ดำเนินการตามกฎหมายอย่างเป็นธรรมและโปร่งใส
