‘สานิต’ ยันไม่ใช่เจ้าของ ‘ตึกยักษ์’ กลางเขาค้อ แค่ไปดูแลแทนแต่ไม่รู้รายละเอียด

ความคืบหน้าการก่อสร้างตึกอาคารยักษ์ 3 หลัง กลางเขาค้อ จ.เพชรบูรณ์ ที่อัยการสั่งไม่ฟ้อง เพราะสร้างในแปลงที่ดินราษฎรอาสาสมัคร (รอส.) และอยู่ในเขตป่าที่ทหารขอใช้จากกรมป่าไม้ หมู่ 12 บ้านส่งคุ้ม ต.เขาค้อ อ.เขาค้อ จ.เพชรบูรณ์ ต่อมาคณะเจ้าหน้าที่สั่งเบรกการก่อสร้าง เนื่องจากยังไม่มีการขออนุญาตใช้พื้นที่และไม่ได้ขออนุญาตก่อสร้างอย่างถูกต้อง นอกจากนี้ ยังเตรียมรื้อฟื้นคดีใหม่นั้น

DCIM100MEDIADJI_0097.JPG

เมื่อวันที่ 8 มีนาคม นายสานิต นุชอาจ อายุ 67 ปี ผู้ดูแลและผู้รับเหมาก่อสร้างตึกอาคารยักษ์ 3 หลัง กลางเขาค้อ ให้สัมภาษณ์ว่า อยากดำเนินการก่อสร้างให้สำเร็จ ไม่เช่นนั้นก็เหมือนค้างคา และว่าที่เข้ามาก่อสร้าง เพราะเห็นที่อื่นก็มีการก่อสร้างเหมือนกัน

นายสานิต กล่าวอีกว่า ในเมื่อมีคำสั่งระงับการก่อสร้างก็ต้องปฏิบัติตาม ส่วนประเด็นจะมีการเตรียมฟ้องร้องเจ้าหน้าที่หรือไม่ เพราะเกิดความเสียหายขึ้นนั้น ยอมรับว่ายังไม่ได้คิดไกลไปถึงขนาดนั้น เมื่อเกิดเรื่องหรือปัญหาขึ้น ก็อยากติดตามหรืออยากทราบคำตอบเช่นเดียวกัน เจ้าหน้าที่จะดำเนินการอย่างไรต่อ

“ส่วนข้อผิดพลาดที่เกิดขึ้นตรงนี้ก็คงจะย้อนกลับมาดูตัวเองมากกว่า การที่จะไปรบกับคนอื่นคงไม่ทำหรอกและคงไม่ใช้วิธีการแบบนี้เสีย 1 แล้วยังจะไปเสีย 2 อีกเหรอ และในการก่อสร้างอาคารนี้ไม่ใช่รีสอร์ท โรงแรมแต่เป็นโครงการก่อสร้างศูนย์เรียนรู้บริการนักท่องเที่ยวเพื่อการเกษตร” นายสานิต กล่าว

Advertisement
DCIM100MEDIADJI_0075.JPG

นอกจากนี้ นายสานิต ยังตอบข้อถามถึงการร่วมลงทุนระหว่าง นายละออ จีนใจตรง รอส.เจ้าของที่ดินกับทางนายทุนโครงการนี้มีรายละเอียดแค่ไหนด้วยว่า เท่าที่ทราบ มีการทำสัญญาและแบ่งปันผลประโยชน์ร่วมกัน ส่วนรายละเอียดต่างๆ ยอมรับว่ารู้ไม่ลึก

เมื่อถามถึงกรณีที่สังคมไม่เชื่อว่าจะเป็นการร่วมทุนกัน และยังตั้งข้อสังเกตด้วยว่าอาจจะเป็นการจัดฉากขึ้น นายสานิต กล่าวปฎิเสธว่า ไม่ใช่การจัดฉาก เท่าที่รู้มีการแบ่งปันผลประโยชน์กัน แต่รายละเอียดไม่รู้ หากเป็นการจัดฉากคงไม่ใช่ ส่วนการที่เจ้าหน้าที่เตรียมจะรื้อคดีขึ้นมาก็คงให้ทางเจ้าหน้าที่เขาทำไป

นายสานิต กล่าวอีกว่า เมื่อวันที่ 7 มีนาคม ได้ให้คนงานนำแผ่นสแลนไปปิดล้อมพื้นที่ก่อสร้างไว้เพื่อป้องกันความเสียหาย และไม่ต้องการให้บุคคลภายนอกเข้าพื้นที่โดยพลการ และว่า ตนเป็นเพียงคนทำงานก่อสร้าง ไม่ใช่หุ้นส่วน เพียงแต่เจ้าของโครงการเห็นเป็นผู้ที่มีความสามารถจึงได้มอบหมายให้ช่วยก่อสร้างโครงการนี้ให้สำเร็จ

Advertisement

“ส่วนที่มีการมองว่าโครงการนี้มีเส้นสายใหญ่นั้น คงไปห้ามคนอื่นคิดไม่ได้ว่าจะคิดอย่างไร และใครจะไปตีความทั้งทางบวกและทางลบยังไงก็แล้วแต่ แต่ผมเชื่อว่าการที่เขาไปตรงนั้นก็คงจะเห็นความสำเร็จ ถามว่าบุกรุกป่าหรือไม่ก็เห็นก็กันอยู่ว่าคนอื่นเขาก็ทำกัน และสถานที่ราชการต่างไม่ว่าจะเป็นที่ว่าการอำเภอ โรงพยาบาล โรงเรียน ฯลฯ เรียกว่าบ้านเมืองมีความเจริญแล้ว” นายสานิต กล่าว

เมื่อถามว่าหลังเกิดปัญหาขึ้นท่าทีของเจ้าของโครงการเป็นอย่างไรบ้าง นายสานิต กล่าว ก็มีการพูดคุยกันและก็ได้รับแจ้งว่าให้หยุดไว้ก่อน เพื่อให้รอดูทิศทาง

“ส่วนการก่อสร้างที่ดำเนินการไปแล้วในส่วนของตึกอาคาร 2 หลังเหลืออีกเพียงราวร้อยละ 5 ก็เสร็จสิ้น เพราะเหลือแค่การตกแต่งภายในเป็นส่วนใหญ่เท่านี้น ส่วนอีกอาคารตึกอีกหลังเหลืออีกราวร้อยละ 30 ส่วนงบประมาณการก่อสร้างรวมทั้งการตกแต่งบริเวณแลนด์สเคปด้วยราว 30 ล้านบาท เท่านั้น ไม่ใช่ 100 ล้านบาท อย่างที่เข้าใจหรือพูดกัน” นายสานิต กล่าวและว่า ส่วนหุ้นส่วนโครงการนี้มีใครบ้างหรือกี่รายนั้น ไม่ทราบและไม่ขอลงไปในรายละเอียด

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image