ศาลเมืองคอนพิพากษา’เสก โลโซ’ ยิงปืนขึ้นฟ้า จำคุก 5 วัน ปรับ 2 พันบาท

กรณีนายเสกสรรค์ ศุขพิมาย หรือ “เสก โลโซ” นักร้องชื่อดัง ถูกตำรวจ สภ.พรหมคีรี จ.นครศรีธรรมราช จับกุมดำเนินคดีในข้อหามีอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต พกพาอาวุธปืนไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะ โดยไม่มีเหตุอันสมควร และไม่ได้รับอนุญาตให้มีอาวุธปืนติดตัว และยิงปืนซึ่งใช้ดินระเบิดโดยใช่เหตุในเมือง หมู่บ้าน หรือที่ชุมนุมชน จากกรณีที่ยิงปืนขึ้นฟ้า 10 นัด เหตุเกิดเมื่อเวลา 01.00 น.วันที่ 29 ธันวาคม 2560 ภายในวัดเขาขุนพนม อ.พรหมคีรี จ.นครศรีธรรมราช ต่อมาเมื่อวันที่ 19 กุมภาพันธ์ 2561 อัยการจังหวัดนครศรีธรรมราชได้ส่งฟ้องนายเสกสรรค์ข้อหาความผิดพาอาวุธปืนติดตัวไปในเมือง หมู่บ้านหรือทางสาธารณะและยิงปืนในเมือง หมู่บ้าน หรือที่ชุมชนโดยใช่เหตุ ส่วนข้อหามีอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต อัยการไม่สั่งฟ้อง เนื่องจากมีการพิสูจน์ได้ว่าอาวุธปืนกระบอกดังกล่าวเป็นปืนมีทะเบียนถูกตามกฏหมายของนายเสกสรรค์ อัยการจึงส่งฟ้องเพียงข้อหามีอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต 2 ข้อหาเท่านั้น

ล่าสุดเมื่อเวลา 09.30 น.วันที่ 15 มีนาคม ที่บัลลังก์ 6 ศาลจังหวัดนครศรีธรรมราช นายเสกสรรค์ จำเลยได้เดินทางมาพร้อมแฟนสาว และว่าที่ ร.ต.มงคลวิจิตร ธนะโสภณ นายภูเบศ พลายชุม ทีมทนายความส่วนตัว เพื่อฟังคำพิพากษาในคดีนี้ โดยก่อนศาลอ่านคำพิพากษา เจ้าหน้าที่ตำรวจประจำศาลฯ ได้ใส่กุญแจมือนายเสกสรรค์ ขณะยืนฟังคำพิพากษา โดยศาลได้ใช้เวลาอ่านคำพิพากษาประมาณ 10 นาที

ทั้งนี้ ศาลได้อ่านคำพิพากษาว่า ศาลได้พิเคราะห์จากพยานหลักฐานแม้จำเลยจะให้การรับสารภาพ แต่จำเลยเป็นบุคคลสาธารณะ มีชื่อเสียงสมควรเป็นแบบอย่างที่ดียิ่งและต้องมีความรับผิดชอบต่อสังคมมากกว่าบุคคลทั่วไป เนื่องจากสามารถเป็นที่จดจำได้ง่ายอันอาจเป็นแบบอย่างก่อให้เกิดผลกระทบต่อความสงบเรียบร้อยของสังคม โดยเฉพาะอย่างยิ่งการกระทำผิดหากถูกเผยแพร่อาจเป็นบรรทัดฐานให้บุคคลอื่นอ้างรู้เท่าไม่ถึงการณ์ หลงผิดก่อเหตุในทำนองเดียวกันได้ สำหรับคุณงามความดีในอดีต การช่วยเหลือสังคมต่างๆ ของจำเลยที่ผ่านมาแม้ควรส่งเสริม แต่ไม่สามารถลบล้างความผิดได้เนื่องจากเป็นคนละส่วนกัน อย่างไรก็ตามกฎหมายพึงใช้บังคับอย่างเสมอภาคเท่าเทียมกัน มาตรฐานเดียวกัน ไม่ว่าผู้กระทำผิดมีสถานะทางสังคมเพียงใด คดีนี้ศาลจึงใช้ดุลพินิจโดยไม่อิงสถานะทางสังคมของจำเลยเป็นคุณให้เบาลงหรือเป็นโทษให้หนักขึ้น แต่จะพิจารณาตามพฤติการณ์ดังฟ้องโจทก์ประกอบพยานหลักฐานในสำนวนเป็นสำคัญ ฐานพาอาวุธปืนมีทะเบียนของตนเองไปในเมืองหมู่บ้านหรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาตและไม่มีเหตุสมควร ปรับ 4,000 บาท

Advertisement

สำหรับความผิดฐานยิงปืนใช้ดินระเบิดโดยใช่เหตุ แม้เป็นเพียงลหุโทษ ไม่มีผู้ใดได้รับความเสียหาย จำเลยมีภาระที่รับผิดชอบต่อครอบครัวหรือบุคคลใกล้ชิด อาวุธปืนเป็นของจำเลยเองโดยให้การรับสารภาพมาตลอดรวมทั้งเหตุความจำเป็นประการอื่นก็ตาม แต่จำเลยกระทำในศาสนสถาน ยิงปืนมากถึง 10 นัด ถือว่าไม่สำนึกถึงผลกระทบต่อความเดือดร้อน กระสุนปืนแต่ละนัดอาจสร้างความเสียหายต่อชีวิต ร่างกาย ทรัพย์สินของผู้อื่นและเป็นความผิดสำเร็จทันทีโดยไม่จำต้องมีผู้เสียหาย กรณีสุ่มเสี่ยงก่อให้เกิดพฤติกรรมเลียนแบบ ไม่ถือว่าเป็นเรื่องเล็กน้อย

ดังนั้นเพื่อให้จำเลยหลาบจำ มิให้เป็นเยี่ยงอย่างแก่บุคคลอื่นป้องปรามและจัดระเบียบสังคมให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย เห็นสมควรลงโทษ จำคุก 10 วัน จำเลยให้การรับสารภาพเป็นประโยชน์แก่การพิจารณา มีเหตุบรรเทาโทษลดโทษให้กระทงละกึ่งหนึ่ง ตามประมวกฎหมายอาญา มาตรา 78 ฐานพาอาวุธปืนฯปรับ 2,000 บาท ฐานยิงปืนใช้ดินระเบิดโดยใช่เหตุ จำคุกเหลือเพียง 5 วัน คงจำคุก 5 วัน ปรับ 2,000 บาท โดยไม่มีการรอลงอาญา สำหรับของกลางที่เจ้าพนักงานยังคงเก็บรักษาไว้ เป็นทรัพย์ที่ใช้ในการกระทำความผิด จึงให้ริบฯ

Advertisement

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากศาลอ่านคำพิพากษาจำคุกนายเสกสรรค์จำนวน 5 วัน และปรับ 2,000 บาท แล้วเจ้าหน้าที่ศาลได้มีการคุมตัวนายเสกสรรค์ไปยังห้องขังใต้ถุนศาลทันที โดยมีแฟนสาวตามมาด้วยถึงกับน้ำตาคลอเบ้าตลอดเวลา

ว่าที่ ร.ต.มงคลวิจิตร ธนะโสภณ ทนายความส่วนตัวของนายเสกสรรค์ เปิดเผยในเวลาต่อมาว่า คดีนี้ศาลเมตตากรุณาลดโทษจำคุกจาก 10 วัน เหลือ 5 วัน ซึ่งตนและนายเสกสรรค์น้อมรับและเคารพในการตัดสินของศาลที่มีความเมตตากับนายเสกสรรค์ ซึ่งขั้นตอนต่อไปอยู่ระหว่างการอุทธรณ์และกำลังอยู่ระหว่างการขอประกันตัวนายเสกสรรค์ในชั้นศาลอุทธรณ์ต่อไป

 

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image