เมื่อวันที่ 19 มีนาคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นางน้ำฝน ปรีชา อายุ 48 ปี อยู่บ้านเลขที่ 117 หมู่ 5 ต.ยางหัก อ.ปากท่อ จ.ราชบุรี พร้อมด้วยนายอนุสรณ์ ฤทธิ์ล้ำ ผู้ใหญ่บ้าน นายนพรัตน์ จั่นสำอาง ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน หมู่ที่ 5 บ้านไทยประจัน และเพื่อนบ้าน ร่วมกันนำผลไม้ไปให้ค่างแว่นตัวหนึ่ง ที่พลัดหลงเข้ามาในบริเวณริมป่าหลังบ้านชาวบ้านที่สร้างเป็นคอกเลี้ยงหมู ติดกับเขตป่าอุทยานแห่งชาติเฉลิมพระเกียรติไทยประจัน
ทั้งนี้ค่างแว่นเป็นสัตว์ป่าคุ้มครองหายาก พบเห็นตามป่าลึกถิ่นเหนือและทางถิ่นใต้ในพื้นที่ป่าอุดมสมบูรณ์ โดยค่างแว่นตัวดังกล่าว มีลักษณะสีน้ำตาล เทา หรือดำ ช่วงขาหลังและหางสีเทาอ่อน ใบหน้าสีเทา รอบปากสีขาว มีแต้มขาวรอบดวงตาเหมือนใส่แว่น อุ้งมือและอุ้งตีนไม่มีขน หางยาว มือและตีนใช้ยึดจับสิ่งของต่างๆ มาอาศัยกระโดดโลดเต้นอยู่บริเวณคอกเลี้ยงหมู เพราะเป็นโอกาสที่เจ้าของหมูนำอาหารมาให้หมู ค่างแว่นจึงแอบอาศัยช่วงจังหวะแย่งอาหารหมูกิน
นางน้ำฝนเปิดเผยว่า ไม่รู้ว่าค่างแว่นมาอยู่อาศัยหลังบ้านได้อย่างไร แต่เมื่อเห็นจึงนำกล้วยสุกที่ปลูกไว้ไปเสียบกับไม้ให้กินเป็นประจำจนเริ่มเชื่อง ยอมให้ลูบหลัง จับมือเล่น จนในที่สุดก็ให้อุ้ม เล่น และชอบส่งเสียงเรียกให้เล่นด้วย ใช้เสียงเรียก “แอ้ๆๆๆๆ ”
“บางทีอยู่ในบ้านได้ยินเสียงเรียกก็จะออกมาเล่นด้วย นึกว่าหิว แต่ที่ไหนได้กลับโยนของกินทิ้ง จึงรู้ว่าส่งเสียงเรียกให้เรามาเล่นด้วย มันเชื่องถึงขนาดไปนอนเล่น นอนกอดหอมแก้มลูกหมูที่เลี้ยงไว้ในคอกด้วยกัน น่าเอ็นดู หลังจากที่ตอนแรกที่เข้ามาอยู่นั้นจะเข้ามาแย่งอาหารหมูกิน พอลูกหมูแกล้งก็เอามือตีที่หน้าหมูไม่ให้ยุ่ง พอตกตอนเย็น ก็จะกลับเข้าป่าไป และจะมาหากินที่บ้านทั้งวันไม่ยอมไปไหน จะมาประมาณเกือบ 7 โมงเช้าทุกวัน พอช่วงสายหน่อยก็จะร้องเรียกกินผลไม้ก็จะเอามาให้” นางน้ำฝนกล่าว และว่า ได้ตั้งชื่อว่า “เจ้าหลง ”
นายอนุสรณ์กล่าวว่า มีชาวบ้านทำไร่ปลูกผักซึ่งอยู่ติดกับพื้นที่สวนป่าแจ้งว่า มีค่างแว่นมาอาศัยอยู่ที่หลังบ้าน 1 ตัว และก็ยังมีชาวบ้านมาบอกว่ายังมีค่างแว่นอีกตัวอาศัยอยู่ในพื้นที่ใกล้เคียงกัน คาดว่าจะมี 2 ตัว แต่คงจะแยกกันหากิน
“เชื่อว่าการที่มีค่างแว่นออกมาอาศัยอยู่ลักษณะนี้ เพราะมีการดูแลผืนป่าให้เริ่มกลับมามีความอุดมสมบูรณ์ ค่างแว่นก็เลยเริ่มขยับพื้นที่ออกมาอาศัยอยู่ด้านนอกของผืนป่าอุทยานแห่งชาติเฉลิมพระเกียรติไทยประจัน เป็นไปได้ที่ค่างแว่นจะแตกฝูงออกมาอาศัยในชุมชนได้ ช่วงนี้จึงได้ประชาสัมพันธ์ชาวบ้านในพื้นที่ให้ช่วยกันสอดส่องดูแล ให้ดูด้วยความน่ารัก และให้อยู่เป็นธรรมชาติของสัตว์ป่า อย่าไปทำร้ายเนื่องจากค่างแว่นเป็นสัตว์ป่าคุ้มครองตาม พ.ร.บ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ.2535 มีโทษสูงสุดจำคุก 4 ปี ปรับไม่เกิน 4 หมื่นบาท
