เมื่อวันที่ 22 มีนาคม ศูนย์ปฏิบัติการพิทักษ์ป่า(ศปก.พป.) กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม(ทส.) ตามนโยบายพลิกฟื้นผืนป่าสู่การพัฒนาที่ยั่งยืนของพลเอกสุรศักดิ์ กาญจนรัตน์ รมว.ทส. ภายใต้การกำกับดูแลของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการตัดไม้ทำลายป่าแห่งชาติ(คบป.) โดยการอำนวยการของนายอรรถพล เจริญชันษา รองอธิบดีกรมป่าไม้ มีรายงานว่า คณะเจ้าหน้าที่ ศปก.พป. ประด้วยหน่วยเฉพาะกิจปราบปรามพิเศษ(พยัคฆ์ไพร),ชุดปฏิบัติการพิเศษ ศปป.4 กอ.รมน., กองร้อยทหารพรานที่ 2108 กรมทหารพรานที่ 21,ศูนย์ป้องกันและปราบปรามที่ 2 (ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ) กรมป่าไม้และกอ.รมน.จ.เลย นำโดยพ.อ.พงษ์เพชร เกษสุภะ ลงพื้นที่ปฏิบัติการตรวจสอบการบุกรุกที่ดินป่าไม้ในเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าภูเปือย,ป่าภูขี้เถ้าและป่าภูเรือ อ.ด่านซ้าย จ.เลย เมื่อวันที่ 20-21 มีนาคมที่ผ่านมา หลังสืบทราบว่ามีนายทุนซึ่งเป็นข้าราชการโยงใยอยู่เบื้องหลัง และมีการลักลอบทำไม้หวงห้ามในเขตป่าสงวนแห่งชาติดังกล่าว
จากการลงพื้นที่บริเวณป่าท้ายบ้านน้ำพุ่ง หมู่ที่ 3 ตำบลโป่ง อ.ด่านซ้าย จ.เลย พบการกระทำผิดกฎหมายว่าด้วยการป่าไม้ และกฎหมายว่าด้วยป่าสงวนแห่งชาติ โดยคณะเจ้าหน้าที่ตรวจพบมีการบุกรุกแผ้วถางที่ดินในเขตป่าสงวนฯดังกล่าว และมีการตัดถนนในลักษณะที่ราษฎรผู้ยากไร้ไม่มีที่ทำกินจะสามารถดำเนินการได้ ขณะเดียวกันยังพบการลักลอบทำไม้หวงห้ามชนิดไม้แดง,ไม้ประดู่,ไม้มะเลื่อม รวมทั้งพบการแปรรูปไม้หวงห้ามในบริเวณดังกล่าว นอกจากนี้ในการตรวจสอบเพิ่มเติมยังพบกระท่อมที่พัก 1 หลังต้องสงสัย เมื่อเข้าตรวจสอบพบไม้แปรรูปหวงห้ามชนิดไม้มะเลื่อม,ไม้ประดู่ ปริมาตร 0.417 ลบ.ม. และยังพบเลื่อยยนต์จำนวน 2 เครื่อง,อาวุธปืนแก๊ปไทยประดิษฐ์จำนวน 1 กระบอก โดยไม่พบผู้ใดในบริเวณกระท่อมดังกล่าว
อย่างไรก็ตามจากสอบถามราษฎรบริเวณใกล้เคียงซึ่งให้การพาดพิงว่า เป็นกระท่อมพักของนายวันนะหรือนายรวย หลังตรวจสอบกับผู้ใหญ่บ้านในท้องที่ได้รับการยืนยันว่าเป็นกระท่อมของผู้มีชื่อดังกล่าวจริง จึงทำการตรวจยึดไม้หวงห้ามแปรรูป,เลื่อยยนต์,อาวุธปืนแก๊ปไทยประดิษฐ์นำส่งพนักงานสอบสวน สภ.ด่านซ้าย เพื่อให้ติดตามตัวผู้กระทำผิดมาดำเนินคดีตามกฎหมาย ส่วนพื้นที่ซึ่งถูกบุกรุกโดยนายทุนซึ่งมีการลักลอบทำไม้หวงห้าม โดยพบไม้ประดู่ท่อน,ไม้แดงท่อนเป็นจำนวนมาก ได้มอบหมายให้หน่วยป้องกันรักษาที่ ลย.2 (ด่านซ้าย) ดำเนินการตามระเบียบกฎหมายและอำนาจหน้าที่ต่อไป
นอกจากนี้ยังมีรายงานแจ้งว่า สำหรับนายทุนบุกรุกที่ดินในเขตป่าสงวนแห่งชาติรายนี้ จากการสืบทราบของชุดปฏิบัติการพิเศษ ศปป.ที่ 4 กอ.รมน. มีพยานให้การพาดพิงว่า เป็นข้าราชการในสังกัดกระทรวงยุติธรรมรายหนึ่งในจังหวัดเพชรบูรณ์มีส่วนเกี่ยวข้อง ล่าสุดอยู่ระหว่างการตรวจสอบข้อเท็จจริง อย่างไรก็ตามหากพบมีหลักฐานเชื่อมโยงหรือสาวไปถึง ทางเจ้าหน้าที่เตรียมดำเนินการขั้นเด็ดขาด ตามนโยบายของคณะรักษาความสงบแห่งชาติและนโยบายของรัฐบาล
