วันที่ 23 มีนาคม 2561 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ชาว อ.ลับแลขึ้นป้ายสีขาวขนาดใหญ่ เขียนข้อความว่า “เอางบสายไฟฟ้าลงดิน 112 ล้านของคนลับแลคืนมา” ติดไว้ที่บริเวณทางเข้าตลาดสด ทต.ศรีพนมมาศ ติดกับอนุสาวรีย์พระศรีพนมมาศ เพื่อของบประมาณจำนวน 112 ล้านบาทที่สำนักงบประมาณส่งผ่านจังหวัดลงมาให้ อ.ลับแล ดำเนินการโครงการนำสายไฟฟ้าลงดิน หลังชาว ทต.ศรีพนมมาศ และ อ.ลับแลทุกคนร่วมมือกันสร้างศิลปวัฒนธรรม อนุรักษ์วิถีชีวิตความเป็นอยู่มานานกว่า 20 ปี จนการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) จัดลำดับให้ ทต.ศรีพนมมาศอยู่ 1 ใน 24 เมืองที่สามารถเล่าเรื่องราวเขาเล่าว่า และ 1 ใน 9 แห่งของประเทศไทยที่เป็นชุมชนเมืองวัฒนธรรมอันดีงาม
นายเสฐียรพงศ์ มากศิริ ผู้ว่าราชการ จ.อุตรดิตถ์ กล่าวว่า ขอยืนยันกับนายเจษฎา ศรุติสุต นายกเทศมนตรีตำบลศรีพนมมาศและชาวลับแลทุกคนว่า งบประมาณ 112 ล้านบาทนั้นยังจะนำมาดำเนินการตามโครงการเดิม แม้ก่อนหน้านี้จะถูกเปลี่ยนแปลงไปทำ 10 โครงการก็ตาม แต่ 10 โครงการก็ยกเลิกไปแล้วเช่นเดียวกัน เพราะโครงการนำสายไฟฟ้าลงใต้ดินที่จะดำเนินการในเขต ทต.ศรีพนมมาศนั้น ส่วนตัวแล้วก็เห็นด้วยกับโครงการนี้ เพราะจะทำให้ศรีพนมมาศเป็นเมืองท่องเที่ยวอย่างแท้จริง จะมีความสวยงามอย่างยิ่ง แต่ครั้งแรกที่จังหวัดส่งคืนให้กับสำนักงบประมาณนั้นเพราะไม่อยากให้ผู้ดำเนินการต้องรับผิดชอบ เนื่องจากงบประมาณที่ลงมาผิดหมวด หากนำไปใช้ก็จะมีความผิด คนใช้งบประมาณก็อาจจะต้องถูกเรียกเงินคืนเอาได้ และยืนยันว่า จ.อุตรดิตถ์ไม่มีข้าราชการรายใดเป็นมาเฟียหรือมีอิทธิพลมากพอที่จะสามารถสั่งให้โครงการนั้นทำได้หรือไม่ เช่นเดียวกับโครงการนำสายไฟฟ้าลงใต้ดิน ก็ไม่มีข้าราชการมาสั่งให้ผู้ว่าฯสั่งยุติโครงการได้เช่นกัน
“ล่าสุดผมให้สำนักงานจังหวัดทำหนังสือด่วนไปยังสำนักงบประมาณ เพื่อให้เปลี่ยนแปลงงบประมาณ 112 ล้านบาทไปทำเรื่องของการท่องเที่ยวซึ่งสามารถทำได้ และหลังจากนั้นก็จะให้กับการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) เป็นผู้ดำเนินการตามโครงการเดิม เพราะหน่วยงานอื่นไม่สามารถทำได้ แต่การเข้าไปผลักดันงบประมาณให้ลงมาโดยเร็วนั้น หลายฝ่ายร่วมมือกันอย่างจริงจัง อาจจะต้องขอความร่วมมือกับผู้ใหญ่ในพื้นที่ช่วยอีกแรง เพื่อเข้าไปผลักดันเร่งรัดที่สำนักงบประมาณก็น่าจะทำให้โครงการนี้เกิดขึ้นเร็วได้” นายเสฐียรพงศ์กล่าว