รองประธานคณะกก.คมนาคม สนช.ย้ำไม่อยากเห็นสนามบินภูเก็ตเป็นห้างสรรพสินค้า แนะบูรณาการสนามบินข้างเคียง

คณะกรรมาธิการคมนาคม สนช.ดูงานความคืบหน้าการปรับปรุงอาคารผู้โดยสารท่าอากาศยานภูเก็ต และการให้บริการผู้โดยสาร เผยพบพื้นที่อำนวยความสะดวกผู้โดยสารมีน้อย และกว่า 60% จะเป็นพื้นที่ของร้านค้าและการจำหน่ายสินค้าต่างๆ เตรียมนำไปพูดคุยในคณะกรรมาธิการฯ ชุดใหญ่ ย้ำไม่ต้องการเห็นสนามบินเป็นห้างสรรพสินค้า

เมื่อเวลา 08.30 น. วันที่ 25 มีนาคม 2561 คณะกรรมาธิการคมนาคม สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) นำโดยพล.อ.อ. บุญยฤทธิ์ เกิดสุข รองประธานคณะกรรมาธิการการคมนาคม สภานิติบัญญัติแห่งชาติ คนที่ 3 และอนุกรรมาธิการด้านคมนาคมทางอากาศ นำคณะศึกษาดูงานความคืบหน้าการปรับปรุงอาคารผู้โดยสารท่าอากาศยานภูเก็ต และการให้บริการผู้โดยสาร อาทิ การให้บริการเคาน์เตอร์เช็คอิน, การให้บริการด่านตรวจคนเข้าเมือง, สถานที่พักรอภายในอาคารผู้โดยสาร ทั้งอาคารผู้โดยสารระหว่างประเทศ และในประเทศท่าอากาศยานภูเก็ต โดยมีนายเพ็ชร ชั้นเจริญ ผู้อำนวยการท่าอากาศยานภูเก็ต พร้อมผู้บริหารท่าอากาศยานภูเก็ต, พ.ต.อ.กิตติพงษ์ คล้ายแก้ว ผกก.สภ.สาคู, พ.ต.ต.เอกชัย ศิริ สารวัตรตำรวจท่องเที่ยวภูเก็ต ตลอดจนหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ ด่านตรวจคนเข้าเมือง ศุลกากร การบินไทย เป็นต้น โอกาสนี้ยังได้มีการประชุม และบรรยายสรุปเกี่ยวกับการบริหารจัดการ การพัฒนาท่าอากาศยาน ปัญหาอุปสรรคต่างๆ ในการดำเนินงาน ภายในท่าอากาศยานภูเก็ต ณ ห้องประชุมชั้น 5 อาคารสำนักงานท่าอากาศยานภูเก็ตด้วย

นายเพ็ชร ชั้นเจริญ ผู้อำนวยการท่าอากาศยานภูเก็ต กล่าวชี้แจงปัญหาอุปสรรคของท่าอากาศยานภูเก็ตว่า เนื่องจากปัจจุบันจำนวนผู้โดยสารและเที่ยวบินเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว และจะพบว่ามีการร้องเรียนผ่านทางโซเซียลต่างๆ ซึ่งรับทราบมาโดยตลอด และได้แถลงข่าวชี้แจงประเด็นปัญหาต่างๆ ให้เป็นที่รับทราบในวงกว้าง ทั้งนี้ต้องยอมรับว่าอุปกรณ์สิ่งอำนวยความสะดวก ระบบไฟฟ้า แสงสว่าง จะเป็นอุปกรณ์เก่า ดังนั้นจึงเกิดปัญหาในการใช้งาน ซึ่งอยู่ระหว่างการปรับปรุง ส่วนผลกระทบที่เกิดจากการซ่อมพื้นผิวรันเวย์เป็นกรณีเร่งด่วน เป็นเพียงระยะสั้นๆ แต่ด้วยเป็นความจำเป็นที่จะต้องดำเนินการ ไม่เช่นนั้นความเสียหายจะเกิดค่อนข้างมาก ในส่วนของแผนงานการจัดหาสิ่งอำนวยความสะดวกรองรับผู้โดยสาร ซึ่งตามแผนพัฒนาท่าอากาศยานภูเก็ตนั้น มีแผนงานมาตั้งแต่ปี 2553 -2557 แต่ปัจจุบันปี 2561 ยังไม่แล้วเสร็จ ตามโครงการหากแล้วเสร็จจะรองรับผู้โดยสารได้ประมาณ 12.5 ล้านคนปี แต่ปัจจุบันจำนวนผู้โดยสารเพิ่มไปถึง 16.5 ล้านคน ดังนั้นในการบริหารจัดการถือว่าเกินขีดความสามารถ ซึ่งทุกฝ่ายได้พยายามแก้ไขปัญหาทุกวิถีทาง

Advertisement

พล.อ.อ. บุญยฤทธิ์ เกิดสุข รองประธานคณะกรรมาธิการการคมนาคม สภานิติบัญญัติแห่งชาติ คนที่ 3 กล่าวถึงการเดินทางลงพื้นที่ของทางคณะกรรมาธิการฯ ว่า เพื่อศึกษาดูงานเกี่ยวกับการเชื่อมโยงระบบโลจิสติกส์ทั้งทางบก ทางราง ทางน้ำ ทางอากาศ รวมถึงปัญหาอุปสรรคในการดำเนินงานด้านต่างๆ ในพื้นที่ จ.ภูเก็ต และ กระบี่ ซึ่งจะมีการแบ่งกลุ่มในการดูงานในแต่ละด้าน โดยเป็นการติดตามในภาพรวมว่า ในพื้นที่อันดามัน โดยเฉพาะใน 3 จังหวัด คือ ภูเก็ต พังงาและกระบี่ ได้มีการเชื่อมโยงในเรื่องของระบบโลจิสติกส์กันอย่างไรบ้างในการอำนวยความสะดวก เพื่อรองรับปริมาณนักท่องเที่ยวที่เพิ่มสูงขึ้น

อย่างไรก็ตาม พล.อ.อ. บุญยฤทธิ์ กล่าวด้วยว่า จากการลงพื้นที่อาคารผู้โดยสารระหว่างประเทศ พบว่า การจัดพื้นที่สำหรับให้บริการและอำนวยความสะดวกแก่ผู้โดยสารมีค่อนข้างน้อย ส่วนใหญ่กว่า 60% จะเป็นพื้นที่ของร้านค้าและการจำหน่ายสินค้าต่างๆ และบางจุดก็มีร้านค้าบดบังทัศนียภาพที่สวยงามของอากาศยานที่ผุ้ดดยสารจะได้เห็น ประเด็นนี้เป็นเรื่องที่สำคัญมาก และจะต้องนำไปพูดคุยในคณะกรรมาธิการฯ ชุดใหญ่ เพราะไม่ต้องการให้สนามบินกลายเป็นห้างสรรพสินค้า โดยเฉพาะเรื่องพื้นที่พักคอยผู้โดยสารที่จะต้องมีให้มากกว่านี้ รวมถึงสิ่งอำนวยความสะดวกอื่นๆ เช่น เครื่องปรับอากาศ สายพานกระเป๋า เป็นต้น และในช่วงที่จะมีการล้างคราบยางบนทางวิ่ง และการบำรุงรักษาทางขับ เชื่อว่าจะมีผลกระทบเกิดขึ้นอีก ดังนั้นจะต้องมีการเตรียมความพร้อมในการชี้แจงกับสายการบินและหน่วยงานต่างๆ ได้รับทราบ เพื่อให้เกิดผลกระทบน้อยที่สุด และอยากให้ทางผู้บริหารลงมาแก้ปัญหาด้วยตัวเอง แม้จะเข้าใจได้ว่า ขณะนี้สนามบินภูเก็ตอยู่ระหว่างการปรับปรุง แต่ก็ต้องมีการทำประชาสัมพันธ์ให้เป็นที่รับรู้มากขึ้น โดยเฉพาะในช่วงเดือนเมษายนนี้ ซึ่งจำนวนผู้โดยสารจะเพิ่มขึ้นอีกเป็นจำนวนมาก นอกจากนี้ยังอยากให้มีการบูรณาการความร่วมมือกับสนามบินข้างเคียง เพื่อให้การใช้สนามบินเกิดประสิทธิภาพสูงสุด

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image