เมื่อเวลา 13.30 น.วันที่ 27 มีนาคม ตัวแทนประชาชนในนามกลุ่มคนรักสุนัขจังหวัดสงขลา ซึ่งเป็นกลุ่มคนรักสุนัขและช่วยดูแลสุนัขจรจัดในหลายอำเภอของจังหวัด แต่งกายด้วยชุดโจงกระเบนอิงกระแสละครดัง พร้อมป้ายข้อความไม่เห็นด้วยกับการเคลื่อนย้ายสุนัข เดินทางมายังสำนักงานปศุสัตว์จังหวัดสงขลา เพื่อแสดงออกถึงความไม่เห็นด้วยในแนวทางการขนย้ายสุนัขจรจัดไปอยู่ที่ศูนย์พักพิงในจังหวัดนครพนม หลังจากมีกระแสข่าวออกมาก่อนหน้านี้ โดยเครือข่ายภาคประชาชนกลุ่มนี้ไม่เห็นด้วยกับแนวทางในการจับสุนัขจรจัด ไปอยู่รวมกัน เพื่อส่งต่อไปด่านกักกันในจังหวัดนครพนม ภายหลังมีการระบาดของโรคพิษสุนัขบ้าในพื้นที่ โดยตัวแทนกลุ่มไม่ไว้ใจในกระบวนการคัดแยกสุนัข ซึ่งอาจจะนำสุนัขที่ป่วยด้วยโรคพิษสุนัขบ้า สุนัขที่มีความเสี่ยง และสุนัขที่สุขภาพแข็งแรง ไปอยู่รวมกัน ขนย้ายไปร่วมกัน ทำให้สุนัขมีความเสี่ยงที่จะติดโรคระบาด รวมถึง มีปัญหาในเรื่องของการขนย้าย
ที่สำคัญศูนย์พักพิงในจังหวัดนครพนม จะสามารถรองรับสุนัขได้อีกเท่าไหร่ เนื่องจากก่อนหน้านี้ก็รับสุนัขจากจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ไปส่วนหนึ่งแล้ว จึงไม่ห็นด้วย ทั้งนี้เมื่อปีที่ผ่านมาก็ได้มีการดำเนินการลักษณะนี้ ในเขตเทศบาลนครหาดใหญ่ ซึ่งได้ร่วมกันยิงยาสลบจับสุนัขจรจัดมากักขังในคอกที่ปศุสัตว์เตรียมไว้เพื่อเตรียมจัดส่งสุนัขไปด่านกักกันที่จังหวัดบุรีรัม ก่อให้เกิดการตายและเจ็บป่วนจากโรคระบาดและการกัดกัน จนทำให้มีอาการบาดเจ็บเกือบ 100 ตัว จนถึงขณะนี้ก็ยังได้รับการดูแลอยู่ ในคอกเลี้ยงของเครือข่ายภาคประชาชน อย่างไรก็ตามกลุ่มรักสุนัขจังหวัดสงขลายืนยันว่า ตระหนักถึงพิษภัยของโรคสุนัขบ้าและพร้อมที่จะร่วมมือในการแก้ปัญหา ป้องกันการสูญเสียชีวิตคน
น.สพ.กิติกรณ์ เจนไพบูลย์ ปศุสัตว์จังหวัดสงขลา กล่าวว่า คำว่าฆ่าสุนัขหรือ เซ็ท ซีโร ไม่เคยออกมาจากกรมปศุสัตว์อย่างแน่นอน แต่ในส่วนที่จะดำเนินการนั้นก็จะดำเนินการกับสุนัขกลุ่มเสี่ยง ในจุดเกิดโรค 29 จุด ซึ่งมีสุนัขกลุ่มเสี่ยงในรัศมี 1-5 กิโลเมตรในจุดเกิดโรคประมาณ 1,500 ตัว ซึ่งจะดำเนินการฉีดวัคซีนป้องกันโรค 4 ครั้ง ด้วยการยิงยาสลบสุนัขจรจัด จากนั้น ก็จะกักตัวเพื่อรอดูอาการ 6 เดือน โดยเบื้องต้นนั้นมีแนวคิดที่จะนำไปกักตัวที่จังหวัดสตูล ซึ่งมีพื้นที่ของราชการอยู่แล้ว และพร้อมเปิดโอกาสให้เครือข่ายภาคประชาชนเข้าร่วมในการดูแล
