เมื่อเวลา 08.10 น.วันที่ 30 มีนาคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้เกิดฝนตกลงมาแบบพรำๆทำให้เกิดอุบัติเหตุโดยรถปิกอัพจำนวน 4 คัน ลื่นไถลตกริมถนนทางหลวงหมายเลข 12 (หล่มสัก-ชุมแพ) บริเวณจุดอุโมงค์ต้นไม้ที่อยู่ระหว่างผู้รับเหมากำลังตัดโค่นต้นไม้ริมถนน หมู่ 7 บ้านน้ำดุกชลประทาน ต.ปากดุก อ.หล่มสัก จ.เพชรบูรณ์ จนรถยนต์ได้รับความเสียหายแต่โชคดีไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บแต่อย่างใด หลังเกิดเหตุ อาสาสมัครกู้ภัยพร้อมเจ้าหน้าที่หมวดการทางหล่มสักที่ 1 (น้ำชุน) เดินทางไปช่วยเหลือ โดยเบื้องต้นสันนิษฐานสาเหตุมาจากฝนตกทำให้ถนนลื่น ประกอบกับช่วงถนนจุดเกิดเหตุมีฝักและเมล็ดต้นจามจุรีบนพื้นถนน จนเป็นเหตุให้รถลื่นไถลเสียหลักจนเกิดอุบัติเหตุดังกล่าวขึ้น
นายธราวุธ หรัญรัตน์ หมวดการทางหล่มสักที่ 1(น้ำชุน) กล่าวว่า จากการสอบถามคนขับก็บอกว่าขับรถมาดีๆ และเป็นทางตรงไม่ได้แซงรถคันอื่น แต่จู่ๆ รถเกิดการปั่นล้อฟรีและลื่นไถล จนรถหมุนคว้างกระทั่งเสียการทรงตัวทำให้เสียหลักตกริมถนน ส่วนสาเหตุข้อสันนิษฐานว่ามาจากหลายองค์ประกอบตั้งแต่สภาพรถและคนขับ โดยฝนที่ตกลงมาใหม่ๆ และเป็นฝนแรกทำให้ถนนลื่น
“อีกส่วนก็มาจากฝักต้นจามจุรีเวลาร่วงหล่นมาลงบนถนนถูกรถเหยียบย่ำจะมียางเหนียวทำให้หนึบติดบนผิวถนน เมื่อเจอฝนทำให้ยางเหนียวกลายเป็นฟิล์มบางๆ ซึ่งน่าจะเป็นสาเหตุสำคัญทำให้รถเกิดการลื่นไถล บอกได้เลยว่าผิวถนนลื่นแน่นอนเพราะระหว่างที่เจ้าหน้าที่ของเราไปช่วยเหลือรถที่ประสบอุบัติเหตุ เวลาเดินไปเดินทางบนพื้นถนนยังสัมผัสได้” นายธราวุธกล่าว
ขณะที่รายงานข่าวระบุว่า สำหรับบรรยากาศบริเวณอุโมงค์ต้นไม้ ทางผู้รับเหมายังคงระดมคนงานเร่งขนย้ายต้นไม้ที่ถูกตัดซอยเป็นท่อนซุงที่วางกองไว้บริเวณริมถนนทางหลวงหมายเลข 12 ช่วงอุโมงค์ต้นไม้ เพื่อจะเคลื่อนย้ายไปเข้าโรงงานทำเฟอร์นิเจอร์ที่ จ.อุดรธานี โดยนายประยูร สายจันยูร ผู้รับเหมาระบุว่า ภายใน 2 วันนี้ต้นไม้ที่ตัดกองไว้ก่อนหน้านี้คงจะขนย้ายไปเข้าโรงงานเฟอร์นิเจอร์ที่ จ.อุดรธานี จนหมด หลังจากนั้นคงต้องความชัดเจนจากทางแขวงการทางฯว่าจะมีข้อยุติออกมาอย่างไร
“เมื่อวานนี้ ตนไปที่แขวงฯและได้ยื่นหนังสือให้เร่งรัดพิจารณา นอกจากนี้ยังขอให้ช่วยขยายระยะเวลาออกไปให้ด้วย เพราะตามสัญญาผมต้องตัดต้นจามจุรีจำนวน 408 ต้นให้เสร็จสิ้นใน 60 วัน แต่หากยังยืดยื้อแบบนี้ต่อก็คงเป็นปัญหาเช่นกัน” นายประยูรกล่าว
ส่วนนางบุญมี น้อยนัน อายุ 43 ปี กล่าวว่า เข้าใจดีว่ามีความจำเป็นต้องตัดต้นไม้ เพราะจะก่อสร้างถนน 4 เลน ซึ่งจะทำให้บ้านเมืองเกิดความเจริญ แต่ต้นไม้ที่เห็นอยู่ทุกวันมาหลายสิบปีต้องถูกตัดโค่นคิดไปก็เกิดความรู้สึกเสียดายเช่นกัน ต่อไปบริเวณนี้คงร้อนอบอ้าวขึ้นก็อยากให้ทางกรมทางหลวงปลูกต้นไม้ขึ้นมาทดแทน
อย่างไรก็ตาม นายบุญมี สิทธิประภา อายุ 69 ปี ชาวบ้านน้ำดุกชลประทาน กล่าวว่า เมื่อก่อนก็ไม่เคยมีอุบัติเหตุถี่ๆ และเกิดบริเวณเดียวกันแบบนี้ แต่หลังมีการตัดต้นจามจุรีกลับเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้น ซึ่งจากการพูดคุยกับคนขับก็บอกว่าขับมาด้วยความเร็วแค่ราว 60 กิโลเมตรต่อชั่วโมง แต่ไม่สามารถควบคุมรถได้ เรื่องแบบนี้ไม่เชื่อก็อย่าลบหลู่ โดยเฉพาะชาวบ้านแถบนี้บางส่วนก็เชื่อว่าต้นไม้อายุ 50-60 ปี มีผีสางนางไม้อยู่เช่นกัน