เมื่อเวลา 16.00 น.วันที่ 30 มีนาคม ที่ศาลาการเปรียญ วัดสุนทราม หรือวัดห่อหมก ต.ห่อหมก อ.บาง ไทร จ.พระนครศรีอยุธยา นางฉลวย จริตเอก อายุ 71 ปี ภรรยา และน.ส.วนิดา มณีพันธ์ ลูกสาว ของ นายจรูญ มีพันธ์ อายุ 82 ปีได้เคลื่อนย้ายศพนายจรูญ มาถึงที่วัด ทางญาติได้จัดเตรียมสถานที่ไว้อย่างสวยงามเรียบง่ายมีญาติสนิทและเพื่อนบ้าน มาร่วมแสดงความเสียใจ
นางฉลวย กล่าวว่า รู้สึกเสียใจ ที่นายจรูญเสียชีวิต ก่อนที่จะเสียชีวิตไม่ได้มีการพูดคุยอะไรกัน มีช่วงตอนป่วยพูด แหย่แกไปว่า นอนสบาย มีคนป้อนข้าว ป้อนน้ำให้ นายจรูญไม่ได้โต้ตอบอะไร ส่วยนายจ๊อด ยังไม่ได้พูดคุยอะไรกัน หลังจากนายจรูญเสียชีวิต ทราบจากลูกสาวว่าก่อนที่นายจรูญ จะเสียชีวิตนายจ๊อดได้มาเยี่ยม ส่วนเรื่องขอคดี ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ ดำเนินการ
หลังจากเกิดเหตุก็ได้รับค่าเยียวยาจากทางนายจ๊อด เป็นค่ารักษาพยาบาล อยากบอกกับนายจ๊อด ว่า ไม่โกรธ แต่ให้เหตุการณ์นี้เป็นบทเรียน เพราะทำลงไปแล้ว นายจ๊อดก็ติดคุก ตาก็ต้องมาเสียชีวิต เงินทองก็เสีย อย่าทำเป็นเด็กใจร้อนเลย ใจเย็นๆ พ่อแม่ก็ต้องลำบาก ลูกจะชั่วจะดี พ่อแม่ก็ตัดไม่ได้
ด้าน นางสาววนิดา กล่าวว่า หลังจากที่พ่อของก็ไม่ได้มีการติดใจให้กับทาง นายนราธร เนื่องจาก นายนราธร พาพ่อไปหาหมอ ตรวจสุขภาพกับตนทุกครั้ง มีการเยียวยาตลอด และตนไม่ติดใจสาเหตุกับการเสียชีวิต หลังจากที่พ่อเสียได้พูดคุยกับทางนายจ๊อด บอกว่าจะจัดการเรื่องค่าทำศพให้ และจะมาแสดงความเสียใจที่งานศพด้วย โดย หลังจากที่ออกจากโรงพยาบาลในครั้งแรก อาการของพ่อก็ไม่ดีขึ้น ขยับมือ ขยับเท้า ทางด้านขวาไม่ได้ ทานข้าวไม่ได้ และมีอาการซึม ซึ่งปกติแล้ว พ่อเป็นคนสนุกสนาน ต่อมา พ่อไข้ขึ้น เลยพาส่งโรงพยาบาลและทรุดตัวลงเสียชีวิต ส่วนตัวแล้ว ตนก็รู้สึกโกรธ แต่อีกใจ ก็คิดว่า พ่ออายุเยอะแล้ว ให้พ่อไปสบายดีกว่า อยากบอกว่า อย่าไปทำแบบนี้กับครอบครัวใคร เพราะมันเป็นการสูญเสียที่ยิ่งใหญ่
