เมื่อวันที่ 2 เมษายน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายสมบัตร จินสิน นายกองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) คุ้งพะยอม อ.บ้านโป่ง จ.ราชบุรี ร่วมกับพระครูวิสุทธิธรรม เจ้าอาวาสวัดโพธิบัลลังก์ จัดพิธีบรรพชาสามเณรภาคฤดูร้อนขึ้น เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลและเฉลิมพระเกียรติเนื่องในโอกาสวันคล้ายวันพระราชสมภพ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี โดยมีชาวบ้านในพื้นที่ซึ่งเป็นชาวไทยเชื้อสายไทยมอญได้นำลูกหลาน ผู้สูงอายุ เด็กนักเรียนจากศูนย์พัฒนาเด็กเล็กของ อบต.คุ้งพะยอม สวมชุดผ้าไทยพื้นถิ่นของชาวไทยมอญ และสวมใส่เสื้อผ้าไทยย้อนยุคสมัยโบราณซึ่งอยู่ในกระแสนิยมตามแบบละครดังบุพเพสันนิวาส เพื่อสืบสานประเพณีและยังเป็นการอนุรักษ์ศิลปวัฒนธรรมไทยที่ดีงามให้กลับคืนมา นอกจากนี้ วัดได้ติดตั้งป้ายคัตเอาต์ขนาดใหญ่ไว้อยู่บริเวณทางเข้าวัด เพื่อรณรงค์ให้คนไทยหันมาแต่งกายแบบไทยๆ โดยมีการนำรูปพี่หมื่นและแม่หญิงการะเกดสวมชุดผ้าไทยที่งดงาม เขียนข้อความว่า “รักกันเลิกเหล้า รักเหล้าเลิกกัน” “คุณพี่ดื่มเหล้ามาเหรอคะ” “ข้ารัก… ออเจ้ายิ่งนัก ข้าจะเลิกดื่มเหล้า” “คุณพี่ไม่รักน้องเหรอเจ้าคะ ถึงดื่มเหล้า” เป็นการรณรงค์ให้ประชาชนร่วมกันลดละเลิกดื่มสุรา หันมารักครอบครัวก็จะทำให้มีความสุข
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับการจัดงานบรรพชาสามเณรภาคฤดูร้อนปีนี้แปลกแหวกแนวไม่เหมือนใคร โดยมีการจัดเป็นปีแรกที่วัดโพธิบัลลังก์ได้นำเรือสมิงโพธิ์ทอง ซึ่งเป็นเรือยาวของทางวัดที่มีชาวบ้านในพื้นที่นำมาถวายให้กับวัดมีอายุไม่ต่ำกว่า 50 ปี เนื่องจากพื้นที่แถบนี้ส่วนใหญ่จะมีอาชีพการสร้างต่อเรือขนาด 30 ฝีพาย เพื่อนำเรือไปแข่งขันกับสนามน่านน้ำทั่วไปของประเทศ มาปีนี้เจ้าอาวาสวัดได้ร่วมกับนายก อบต.มีแนวคิดนำเรือมาใช้ประโยชน์จัดกิจกรรมบรรพชาสามเณรภาคฤดูร้อน จำนวน 30 รูป ช่วงระหว่างวันที่ 2-30 เมษายน ซึ่งอยู่ในช่วงปิดเทอม เด็กๆ จะได้ใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์ ได้เรียนรู้หลักคำสอนของพระพุทธศาสนา กล่อมเกลาจิตใจเติบโตออกไปเป็นเด็กดีที่เป็นกำลังสำคัญของชาติต่อไปในอนาคต
นายสมบัตรเปิดเผยว่า วันที่ 2 เมษายนของทุกปี วัดจะจัดกิจกรรมบรรพชาสามเณรภาคฤดูร้อนทุกปี เนื่องในวันคล้ายวันพระราชสมภพสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี แต่ปีนี้จัดแปลกกว่าทุกปีที่ผ่านมา คือได้มีการนำเรือยาวของวัดมาให้สามเณรที่บวชได้นั่งแห่ไปตามหมู่บ้าน มีชาวบ้านหลายคนทราบข่าวว่าจะมีการแต่งกายย้อนอดีตละครดัง ออเจ้าจึงได้ไปหาเสื้อผ้าเครื่องแต่งกาย ทั้งเด็ก ผู้ใหญ่ ผู้สูงอายุมาร่วมงานกันด้วย นอกจากนี้ ยังมีชาวบ้านในชุมชนคุ้งพะยอมส่วนใหญ่เป็นเกษตรกรและชาวบ้านทั่วไปมีเชื้อสายไทยมอญ ลาว จะมีเครื่องแต่งกายเดิมเป็นของพื้นถิ่นอยู่แล้ว และก็ได้นำมาสวมใส่อวดความสวยงามในงาน มีการร่วมด้วยช่วยกันทั้งบ้านไทย บ้านมอญ บ้านลาวผสมกัน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรยากาศการจัดงานเป็นไปอย่างสนุกสนาน และยังเป็นการสืบสานอนุรักษ์การแต่งกายแบบไทยย้อนยุคของชาวบ้านในชุมชนที่ได้หลอมรวมคนหลายชนชาติมาเข้าไว้ด้วยกันจนเกิดความรัก ความสามัคคี โดยมีวัดเป็นศูนย์กลาง อย่างปีนี้ชาวบ้านหลากหลายอายุ ทั้งเด็ก และผู้สูงอายุ ต่างพร้อมใจแสดงออกด้วยการแต่งกายย้อนยุคย้อนสมัย เพื่อร่วมกันรณรงค์สืบสานวัฒนธรรมไทย เช่น คุณป้า คุณยาย บางคนสวมชุดผ้าไทยแบบเกาะอกไม่มีสไบพาดบ่า ทาแป้ง ทาปากแดง บอกกับหลายคนว่าวันนี้จะมาในชุดของ “อีปริก” คนรับใช้ของแม่พี่หมื่นสุนทรเทวา ได้ร่ายรำยักย้ายส่ายสะโพกไปตามจังหวะเสียงเพลงของแตรวงที่บรรเลงเป่าแห่ขบวนเรือบกของสามเณรทั้ง 30 รูป ที่นั่งอยู่ในเรือบนรถยนต์ไปตามถนนของหมู่บ้านมุ่งหน้าเข้าไปจัดพิธีที่วัด โดยที่บริเวณหัวเรือนั้น ได้มีการนำผลไม้ กล้วยน้ำว้า มะพร้าวอ่อน อาหารคาวหวาน มาเซ่นไหว้แม่ย่านางเรือก่อน ส่วนบนรถมีเด็กนักเรียนสวมชุดผ้าสีขาวนั่งพนมมืออยู่บนเรือแห่ ท่ามกลางชาวบ้านที่สวมใส่เครื่องแต่งกายย้อนยุคแต่ละสมัยมาร่วมขบวนแห่ด้วยความสนุกสนาน คุณลุงบางคนได้ชื่นชอบละครดังกับเขาด้วย จึงแปลงกายตัวเองนุ่งโจงกระเบนสีเขียวมาในชุดของพี่หมื่นสุนทรเทวา ชาวบ้านชอบใจนำโทรศัพท์มือถือมาดักถ่ายภาพคู่กับพี่หมื่นและอีปริกด้วยความชอบใจ
