ผบช.ภ.8 สอบปากคำอดีตตำรวจหนุ่มชาวฝรั่งเศส ผู้ต้องหาคดีข่มขืนแหม่มสาวชาวอังกฤษบนเกาะเต่า ผู้ต้องหายังให้การภาคเสธว่ามีการร่วมเพศจริง 3 ครั้ง และมี 1 ครั้งไม่ได้สวมถุงยางอนามัย แต่ทุกครั้งแหม่มสาวอังกฤษสมยอม แต่ตำรวจยังไม่ปักใจเชื่อในคำให้การทั้งหมด ต้องรอผลตรวจร่างกาย สอบพยานบุคคล พยานแวดล้อม และภาพจากกล้องวงจรปิดบริเวณที่เกิดเหตุ ผบช.ภ.8 ชี้เหตุที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องยากที่จะป้องกันได้ เป็นการพบกันและมีความสัมพันธ์กันส่วนตัว และผู้เสียหายไม่ได้แจ้งความร้องทุกข์กับตำรวจในทันที
เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 9 เมษายน พล.ต.ท.สรศักดิ์ เย็นเปรม ผบช.ภ.8 เดินทางมาที่ สภ.บ่อผุด อ.เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี เพื่อสอบปากคำนายโยฮัน ไมเคิล ตุงก้า บัวก้า อายุ 26 ปี สัญชาติฝรั่งเศส ผู้ต้องหาคดีข่มขืน น.ส.เบทลีห์ อลิส เคนนาร์ด อายุ 18 ปี สัญชาติอังกฤษ ในโรงแรมแห่งหนึ่งบนเกาะเต่า อ.เกาะพะงัน และถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจติดตามจับกุมได้ในพื้นที่ จ.ภูเก็ต ก่อนนำตัวมาฝากขังที่ สภ.เกาะสมุย
สืบเนื่องจากในคืนวันที่ 4 เมษายน 2561 เวลาโดยประมาณ 23.30 น. น.ส.เบทลีห์ ผู้เสียหาย ไปเที่ยวที่บาร์แห่งหนึ่งบนเกาะเต่า ได้ดื่มกินและเล่นเกมกับเพื่อนผู้หญิงคนหนึ่งที่มากับเพื่อนชายชาวต่างชาติ หลังจากนั้นผู้เสียหายก็ได้พบกันนายโยฮัน ผู้ต้องหาได้พูดคุยกัน ดื่มเหล้าจนรู้สึกมึนเมาเหมือนโดนวางยา ต่อมาเช้าวันที่ 5 เมษายน น.ส.เบทลีห์ ผู้เสียหาย ตื่นขึ้นมาก็พบว่าตัวเองนอนเปลือยอยู่ในห้องนอนที่มีนายโยฮัน ผู้ต้องหานอนอยู่ข้างกาย ด้วยความตกใจจึงได้รีบใส่เสื้อผ้าออกมาจากห้องพักในโรงแรมดังกล่าวและนั่งรถแท็กซี่กลับโรงแรมที่พักของตัวเอง
ต่อมา น.ส.เบทลีห์ ผู้เสียหาย ได้โทรศัพท์ไปเล่าเหตุการณ์ทั้งหมดให้มารดาที่ประเทศอังกฤษฟัง มารดาจึงได้ติดต่อไปที่สถานทูตอังกฤษเพื่อช่วยประสานงานนำตัวลูกสาวพร้อมผลตรวจร่างกายไปแจ้งความร้องทุกข์ต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เกาะเต่า หลังจากรับแจ้งความเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้รวบรวมพยานหลักฐานยื่นขออำนาจศาลออกหมายจับนายโยฮัน ไมเคิล ตุงก้า บัวก้า อายุ 26 ปี สัญชาติฝรั่งเศส และศาลจังหวัดเกาะสมุยได้อนุมัติหมายจับเลขที่ 23/2561 ลงวันที่ 7 เม.ย. และนายโยฮัน ผู้ต้องหาถูกจับกุมได้ที่ จ.ภูเก็ต ในเวลาต่อมา
จากการสอบปากคำนายโยฮัน ผู้ต้องหาให้การว่า ตนเองเป็นอดีตตำรวจที่ประเทศฝรั่งเศส ได้เดินทางเข้ามาท่องเที่ยวพักผ่อนที่เกาะเต่า ในคืนเกิดเหตุได้ไปเที่ยวที่บาร์แห่งหนึ่งบนเกาะเต่าและไปเจอกับผู้เสียหายจริง มีการดื่มกิน พูดคุยกันถูกคอ จึงได้ชักชวนมาที่ห้องพักของตนเอง ก่อนจะมีการร่วมเพศด้วยกันจริง 3 ครั้ง โดยครั้งที่ 1 กับครั้งที่ 3 สวมถุงยางอนามัย แต่ครั้งที่ 2 ไม่ได้สวมถุงยางอนามัย และทุกครั้งผู้เสียหายสมยอม ตนไม่ได้ไปบังคับขืนใจ ขู่เข็ญแต่อย่างใด ก่อนที่จะไปส่งผู้เสียหายขึ้นรถแท็กซี่กลับโรงแรม
พล.ต.ท.สรศักดิ์ เย็นเปรม ผบช.ภ.8 เปิดเผยว่า จากที่รับรายงานมีนักท่องเที่ยวผู้เสียหายที่เป็นหญิงสาวชาวอังกฤษ ผู้ถูกกล่าวหาเป็นนักท่องเที่ยวหนุ่มชาวฝรั่งเศส ทั้ง 2 คนไปเที่ยวที่เกาะเต่าและไม่รู้จักกันมาก่อน คืนวันที่ 4 เม.ย.ได้ไปเจอกันที่บาร์แห่งหนึ่งได้พูดคุยทำความรู้จักกันในสถานที่แห่งนั้น แต่หลังจากนั้น 2 วัน ผู้เสียหายได้มาแจ้งความร้องทุกข์ว่าถูกข่มขืนกระทำชำเรา หลังรับแจ้งก็ได้ประสานงานจนจับกุมผู้กระทำความผิดได้ที่ จ.ภูเก็ต นำตัวฝ่ายชายมาสอบปากคำ ส่วนฝ่ายหญิงได้ให้แพทย์ทำการตรวจสอบพิสูจน์ทางกายว่ามีร่องรอยอะไรหรือไม่ และจากการสอบปากคำฝ่ายชายผู้ถูกกล่าวหาเหมือนให้การภาคเสธว่ามีการร่วมเพศกันจริงเป็นลักษณะของการสมยอม แต่ยังเป็นการสอบสวนในเบื้องต้น
“แต่ในเรื่องราวเหล่านี้ก็ต้องขอนำเรียนกับพี่น้องประชาชนเป็นการเสริมสร้างความเชื่อมั่นในการท่องเที่ยว เหตุที่เกิดขึ้นยากที่จะป้องกันได้ เป็นเรื่องของความสัมพันธ์กัน ที่พบกันเป็นการส่วนตัว หลังจากนั้นผู้เสียหายก็ไม่ได้แจ้งเหตุภายในทันที แต่ไปแจ้งเหตุให้กับญาติที่ประเทศอังกฤษ และญาติที่ประเทศอังกฤษแจ้งมาทางสถานทูต สถานทูตก็มาแจ้งความ ฉะนั้นสิ่งต่างๆ เหล่านี้หลังจากได้รับแจ้งร้องทุกข์แล้วก็ได้ดำเนินการจับกุมผู้ถูกกล่าวหาดำเนินคดี ซึ่งขอยืนยันว่าการท่องเที่ยวในพื้นที่ของตำรวจภูธรภาค 8 โดยเฉพาะจังหวัดสุราษฎร์ธานีนักท่องเที่ยวจะมาเที่ยวอย่างปลอดภัย และคนไทยให้การต้อนรับทุกๆ คน” พล.ต.ท.สรศักดิ์ ผบช.ภ.8 กล่าว
