เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 9 เมษายน พ.ต.ต. มะนพ มะโรตระกูล สารวัตรสอบสวน สภ.บ้านตาขุน จ.สุราษฎร์ธานี รับแจ้งเหตุมีนักท่องเที่ยวสูญหายขณะพักแรมอยู่ในที่พักแพเชี่ยวหลาน ภายในอ่างเก็บน้ำเขื่อนรัชชประภา หมู่ 3 ต.เขาพัง อ.บ้านตาขุน เบื้องต้นคาดว่าอาจจะจมน้ำ จึงประสานขอสนับสนุนนักประดาน้ำจากทีมค้นหาใต้น้ำเขื่อนเชี่ยวหลานเข้าช่วยเหลือค้นหา และไปตรวจสอบพร้อม พ.ต.อ.จำโนทย์ แก้วขาว ผกก.สภ.บ้านตาขุน
ที่เกิดเหตุบริเวณแพที่พักเชี่ยวหลาน พบนายเกรียงไกร ชีวินภูริพิทักษ์ อายุ 42 ปี อยู่บ้านเลขที่ 37/114 ซอยศูนย์วิจัย แขวงบางกะปิ กรุงเทพฯ แจ้งว่าเดินทางมาพักผ่อนที่แพเชี่ยวหลานพร้อม น.ส.เหมา หว่อย อายุ 40 ปี ภรรยาชาวจีน ตั้งแต่วันที่ 8 เม.ย. โดยตนและภรรยาได้ดื่มเบียร์ตั้งแต่ช่วงค่ำ อยู่หน้าห้องพัก ต่อมาเวลา 02.00 น. จึงชวนกันลงไปเล่นน้ำ แต่ภรรยาว่ายน้ำไม่เป็นประกอบกับอยู่ในอาการมึนเมา จึงจมน้ำหายไป หลังเกิดเหตุพยายามแจ้งเจ้าหน้าที่ประจำแพที่พัก แต่ไม่มีคนอยู่
ต่อมาชุดประดาน้ำค้นหาพบศพ น.ส.เหมา หว่อย ค้างอยู่ใต้ท่อนซุง บริเวณใต้แพที่พัก จึงนำร่างขึ้นมา โดยยังอยู่ในชุดลำลอง และสภาพร่างกายเริ่มแข็งตัว เบื้องต้นคาดว่าเสียชีวิตมาแล้วไม่ต่ำกว่า 6 ชั่วโมง จึงนำศพส่งตรวจชันสูตรที่โรงพยาบาลสุราษฎร์ธานี
พ.ต.อ.จำโนทย์กล่าวว่า จากการสอบปากคำนายเกรียงไกร สามีผู้เสียชีวิตให้การวกวน และไม่ตรงกับข้อเท็จจริง เนื่องจากขณะเกิดเหตุไม่ปรากฏว่านายเกรียงไกรได้แจ้งให้เจ้าหน้าที่ของแพที่พักทราบ และหลังเกิดเหตุก็ยังไม่แจ้ง จนกระทั่งเมื่อเวลาประมาณ 09.30 น.พนักงานของแพจะต้องนำลูกค้ากลับขึ้นฝั่ง กลับไม่พบตัว น.ส.เหมา หว่อย
“เมื่อสอบถามกับนายเกรียงไกรจึงมาทราบว่า น.ส.เหมา หว่อย จมน้ำ ตั้งแต่กลางดึกที่ผ่าน จึงได้กำชับให้พนักงานสอบสวนสอบปากคำพยานอย่างละเอียด และเร่งส่งศพ น.ส.เหมา หว่อย ไปชันสูตร เพื่อหาสาเหตุการเสียชีวิตที่แผนกนิติเวชโรงพยาบาลสุราษฎร์ธานี และขอกักตัวนายเกรียงไกรไว้ก่อน เพื่อรอผลการสอบสวนปากคำและผลชันสูตรศพ” พ.ต.อ.จำโนทย์กล่าว
