โอละพ่อ! สาวอาร์เจนแจ้งความเท็จว่าถูกชิงทรัพย์ หวังเงินประกัน

เมื่อเวลาประมาณ 09.30 น.วันที่ 11 เมษายน เจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.เชิงทะเล ภายใต้อำนวยการของ พ.ต.อ.เสริม ขวัญนิมิตร ผกก.สภ.เชิงทะเล นำโดย พ.ต.ท.สมพงค์ จุลเรือง รอง ผกก.สส. และ พ.ต.ต.สัณหวิชญ์ สนิทวงศ์ สวป.สภ.เชิงทะเลร่วม เปิดเผยผลการดำเนินการกรณี จับกุมนางสาว จูเรียน่า อายุ 32 ปี สัญชาติ อาเจนติน่า ผู้ต้องหากระทำความผิดฐาน “แจ้งความเท็จฯ” หลังกุเรื่อง ว่ามีคนร้ายชิงทรัพย์ขณะเดินบนทางเท้าริมถนน บริเวณทางลงหาดสุรินทร์ ต.เชิงทะเล อ.ถลาง จ.ภูเก็ต เมื่อกลางดึกของ วันที่ 9 เมษายนที่ผ่านมา

พ.ต.ต.สัณหวิชญ์ สนิทวงศ์ สวป.สภ.เชิงทะเลเปิดเผยว่า สำหรับเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อเวลาประมาณ 23.35 น.ของ วันที่ 9 เมษายน  ศูนย์วิทยุ สภ.เชิงทะเล ได้รับแจ้งจาก น.ส.จูเรียน่า อายุ 32 ปี สัญชาติ อาเจนติน่า ว่า ถูกคนร้ายกระชากกระเป๋า ขณะที่กำลังเดินอยู่บนทางเท้าทางขึ้นหาดสุรินทร์ ต.เชิงทะเล อ.ถลาง
หลังรับแจ้ง ตนพร้อมด้วย พ.ต.ท.สมพงค์ จุลเรือง รอง ผกก.สส. และเจ้าหน้าที่สายตรวจและเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน เดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบน.ส.จูเรียน่าผู้แจ้งให้การว่า คนร้าย จำนวน 3 คน ใช้รถจักรยานยนต์ 2 คัน ไม่ทราบลักษณะ ขับรถมาทางด้านหลัง และมีคนร้าย 1 คนลงจากรถมากระชากกระเป๋า และขับรถหลบหนีไปทางแฟมิลี่ มาร์ท หาดสุรินทร์ โดยทรัพย์สินที่ได้ไปอยู่ในกระเป๋าสะพายสีเหลืองประกอบด้วย คอมพิวเตอร์ โน๊ตบุ๊ค เลนโนโว่ ราคาประมาณ 30,000 บาท , กล้องถ่ายรูป โอลิมปัส ราคาประมาณ 22,500 บาท , เงินไทย 4-5 พันบาท , แว่นกันแดด ราคาประมาณ 9,000 บาท , หน้ากากดำน้ำ และ นาฬิกา ราคาประมาณ 9,000 บาท รวมมูลค่าประมาณ 75,500 บาท

หลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ตำรวจได้พาตัว น.ส.จูเรียน่า เข้าพบพนักงานสอบสวนสภ.เชิงทะเล เพื่อแจ้งความดำเนินคดี แต่ขณะที่พนักงานสอบสวนทำการสอบปากคำน.ส.จูเรียน่าก็พิรุธหลายอย่างที่ส่อว่าจะเป็นการโกหก ทั้งการแอบมองขณะเจ้าหน้าที่ตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดในสถานที่เกิดเหตุ และเมื่อทราบว่าเจ้าหน้าที่กำลังตรวจสอบภาพวงจรปิดน.ส.จูเรียน่า ทำทีคล้ายว่าจะไม่แจ้งความ และขอเดินทางกลับโรงแรมที่พัก เมื่อเจ้าหน้าที่เดินทางไปด้วยก็แสดงอาการไม่อยากให้ข้อมูลใดๆ

Advertisement

หลังพบพิรุธดังกล่าวเจ้าหน้าที่ได้ตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดทั้ง สถานที่ที่ น.ส.จูเรียน่า แจ้งว่าถูกชิงทรัพย์ ร้านสะดวกซื้อใกล้เคียง และหน้าฟรอนท์ของโรงแรม พบว่า ในภาพ น.ส.จูเรียน่าได้เดินออกจากโรงแรมที่พักไปร้านสะดวกซื้อโดยไม่มีกระเป๋าทรัพย์สินแต่อย่างใด มีเพียงโทรศัพท์มือถือ ที่น.ส.จูเรียน่า เดินเล่นไปด้วย และเดินกลับ ก่อนที่จะเข้าไปแจ้งพนักงานที่หน้าฟรอนท์ของโรงแรมว่า ถูกคนร้ายชิงกระเป๋า เพื่อให้ช่วยแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ

ทั้งนี้เมื่อเจ้าหน้าที่ ทราบแน่ชัดจึงเดินทางไปที่โรงแรมดังกล่าวก่อนเชิญตัวน.ส.จูเรียน่า มาสอบสวนเพิ่มเติม จน น.ส.จูเรียน่า สารภาพว่าได้กุเรื่องทั้งหมดขึ้นเพื่อหวังเอาบันทึกแจ้งความ กลับไปเอาเงินประกันที่ทำไว้เมื่อเดินทางกลับ ส่วนทรัพย์สินของตนเองนั้นได้ฝากเพื่อนที่เดินกลับไปประเทศฮ่องกงแล้วเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา

ด้าน พ.ต.ท.สมพงค์ จุลเรือง รอง ผกก.สส. เปิดเผยในส่วนของคดีความว่า พ.ต.อ.เสริม ขวัญนิมิตร ผกก.สภ.เชิงทะเล ได้สั่งการให้พนักงานสอบสวน ดำเนินคดีกับนทท.รายนี้ ให้ถึงที่สุดเนื่องจากทำให้เกิดเป็นผลกระทบเสียหายต่อภาพลักษณ์การท่องเที่ยว และไม่ให้เป็นแบบอย่างให้นทท.รายอื่นๆกระทำอีก ซึ่งเบื้องต้นพนกงานสอบสวนได้แจ้งข้อกล่าวหา “แจ้งความเท็จฯ” ก่อนส่งตัวไปยังศาลจังหวัดภูเก็ตพิจารณา ในวันนี้

Advertisement

พ.ต.ท.สมพงค์กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับเหตการณ์หรือคดีความในลักษณะดังกล่าว เกิดขึ้นบ่อยครั้ง สืบเนื่องจากกลุ่มของนทท.หลายๆชาติที่เดินทางมาท่องเที่ยว ได้มีการทำประกันไว้ กรณีทรัพย์สินสูญหาย เมื่อจะเดินทางกลับก็จะเกิดความโลภ มีความประสงค์ต่อทรัพย์สินหรือเงินชดเชยจากเงินประกันที่ทำไว้ จึงทำการวางแผนกุเรื่องก่อนแจ้งความ โดยเลือกในวันสุดท้ายก่อนเดินทางกลับ และจะพยายามเร่งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจออกเอกสารบันทึกแจ้งความต่างๆให้ เพื่อรีบนำกลับไปเบิกเงินประกันฯ ซึ่งการกระทำลักษณะดังกล่าวสร้างความเสียหายต่อชื่อเสียง และความเชื่อมั่นด้านมาตรการความปลอดภัยของภูเก็ตเป็นอย่างยิ่ง จึงต้องดำเนินการให้เด็ดขาดเพื่อให้เป็นเยี่ยงอย่างกับรายอื่นๆที่คิดกระทำ

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image