เมื่อวันที่ 16 เมษายน 2561 ที่อาคารผู้ป่วยเฉลิมพระเกียรติ ชั้น 5 โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา นายอธิศักดิ์ สเกว อายุ 29 ปี ผู้ป่วยที่ถูกกลุ่มวัยรุ่นรุมทำร้ายเมื่อวันที่ 14 เมษายนที่ผ่านมา ขณะเล่นสงกรานต์ที่บริเวณหน้าศาลเจ้าโหงวโจ้ว ถนนจอมสุรางค์ยาตร์ เขตเทศบาลนครราชสีมา จนได้รับบาดเจ็บสาหัส เข้ารักษาอาการป่วยที่ รพ.มหาราชนครราชสีมา โดยแพทย์ระบุว่าแผลที่บริเวณใบหน้า ขอบตา ปาก ติดเชื้อ และฟกช้ำอักเสบที่บริเวณศีรษะ คอ และต้นขาด้านขวาต้องให้ยาฆ่าเชื้อ แก้อักเสบและล้างแผลทุกวัน ส่วนสมองไม่ได้รับการกระทบเทือน ซึ่งในวันนี้ แพทย์ได้อนุญาตให้นายอธิศักดิ์ ออกจากโรงพยาบาลไปรักษาต่อที่บ้าน โดยแพทย์นัดพบเพื่อตรวจอาการป่วยอีกครั้งในวันที่ 20 เมษายน
นายอธิศักดิ์กล่าวว่า ในวันเกิดเหตุไปเที่ยวสงกรานต์ที่บริเวณดังกล่าวกับเพื่อนผู้ชาย 1 คน และผู้หญิงอีก 1 คน รวมเป็น 3 คน ขณะเดินผ่านกลุ่มวัยรุ่นก็ได้มีการแซวกันไปมาและมีปากเสียงกันจนมีการท้าต่อยตัวต่อตัว แต่ไม่ทันไรก็มีกลุ่มวัยรุ่นวิ่งเข้ามารุม จึงวิ่งหนีและหกล้ม พอล้มลงตนก็ถูกรุมทำร้ายแล้วก็สลบไป มารู้ตัวอีกครั้งตอนที่อยู่โรงพยาบาล ส่วนกรณีที่กลุ่มวัยรุ่นที่ถูกจับกล่าวหาและให้การกับตำรวจว่าตนเองเคยมีเรื่องกับกลุ่มวัยรุ่นดังกล่าวมาก่อน และวันเกิดเหตุไปลวนลามจับนมแฟนของเขานั้น ตนปฏิเสธว่าไม่เป็นความจริง ไม่เคยมีเรื่องกับกลุ่มวัยรุ่นกลุ่มนี้มาก่อน และไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเป็นใครมาจากไหน ส่วนที่ระบุว่าตนเองไปลวนลามจับนมแฟนเขานั้นยิ่งเป็นไปไม่ได้ ตนเดินก็ยังเอาตัวไม่รอดแล้วจะไปลวนลามผู้หญิงได้อย่างไร และยิ่งมากันแค่ 3 คน ไม่ใช่มาเป็นฝูงตามที่ถูกกล่าวหา คำพูดดังกล่าวเป็นการแก้ตัวเป็นแค่ข้ออ้างของผู้กระทำผิดเท่านั้น ตนเองพร้อมจะต่อสู้ตามกระบวนการยุติธรรมและจะเอาผิดกับผู้ที่ทำร้ายตนเองให้ถึงที่สุด เมื่อแพทย์อนุญาตให้ตนออกจากโรงพยาบาลก็จะกลับไปอยู่บ้านโดยไม่กลัวกลุ่มวัยรุ่นดังกล่าวตามมาทำร้ายแต่อย่างใด นายอธิศักดิ์กล่าว
พ.ต.อ.ปฏิยุทธ์ สิงห์สมโรจน์ ผู้กำกับการ สภ.เมืองนครราชสีมาเปิดเผยความคืบหน้าของคดีนี้ว่า ผู้ต้องหาที่หลบหนี 3 คน ขณะนี้เข้ามอบตัวแล้ว 1 คน คือ นายเอ๋อหน้าดาว เหลืออีก 2 คน ยังไม่ติดต่อขอมอบตัวซึ่งตำรวจจะเสนอศาลออกหมายจับต่อไป ขณะนี้ตำรวจได้สอบปากคำผู้เสียหายและผู้ต้องหาหมดแล้ว ในวันที่ 17 เมษายน จะส่งผู้ต้องหา 8 คน ไปฝากขังที่ศาลนครราชสีมา จากนี้พนักงานสอบสวนจะรวบรวมหลักฐานเพิ่มเติมคือใบความเห็นของแพทย์ รพ.มหาราชนครราชสีมาและจะสอบปากคำผู้บาดเจ็บอย่างละเอียดอีกครั้ง เพื่อสรุปสำนวนส่งฟ้องต่ออัยการและศาลตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป
