เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 16 เมษายน ร.ต.อ.วิสันต์ จิตพิมพ์ รองสารวัตรสอบสวน สภ.หนองบ่อ อ.นาแก จ.นครพนม รับแจ้งมีอุบัติเหตุรถยนต์ชนกัน 3 คันรวด บริเวณถนนหลวงหมายเลข 223 อ.นาแก-มุ่งหน้าไปยัง จ.สกลนคร ใกล้หน่วยพัฒนาการเคลื่อนที่ 22 อ.นาแก เขตบ้านโคกสีทอง ต.ก้านเหลือง อ.นาแก จ.นครพนม จึงประสานงานร่วมกับ พ.ต.ต.ภักดี พรมมา สวป.สภ.หนองบ่อ นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ พร้อมประสาน เจ้าหน้าที่กู้ชีพโรงพยาบาลอำเภอนาแก และเจ้าหน้าที่กู้ชีพจากองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นใกล้เคียง ร่วมตรวจสอบ ช่วยเหลือผู้ได้รับบาดเจ็บ โดยในที่เกิดเหตุ ถนนฝั่งมุ่งหน้า จาก อ.นาแก ไป จ.สกลนคร พบรถยนต์กระบะมาสด้า แค็บ สีเทา ทะเบียน บย 8624 สกลนคร ในสภาพด้านหน้าพังเสียหาย เนื่องจากชนกับรถยนต์กระบะมิตซูบิชิ ไทรทัน สีขาว ทะเบียน ฒบ 4570 กรุงเทพมหานคร ในสภาพพลิกคว่ำตะแคงซ้าย ส่วนอีกคัน เป็นรถยนต์โตโยต้า วีโก้ สีบรอนซ์ ทะเบียน ผบ 9991 ขอนแก่น อยู่ในสภาพพลิกคว่ำหงายท้อง มีข้าวของกระจัดกระจายเต็มพื้นถนน เจ้าหน้าที่จึงระดมช่วยกันนำผู้บาดเจ็บทั้งหมด รวม 9 ราย ส่งตัวไปรักษาที่โรงพยาบาลอำเภอนาแก
แต่หนึ่งรายได้รับบาดเจ็บสาหัส คือ นายบุญสันต์ ธ.น.ราม อายุ 65 ปี อยู่บ้านเลขที่ 15 หมู่ 13 บ้านพระกลางทุ่ง อ.ธาตุพนม จ.นครพนม คนขับรถกระบะ มาสด้า แค็บ สีเทา ทะเบียน บย 8624 สกลนคร เจ้าหน้าที่จึงเร่งให้การช่วยเหลือ นำตัวส่งไปรักษาที่โรงพยาบาลอำเภอนาแก ส่วนคนขับอีก 2 ราย ทราบชื่อภายหลัง คือ นายสุขี เทียมแก้ว อายุ 38 ปี อยู่บ้านเลขที่ 294 ม 4 ต.ทุ่งใหญ่ อ.ทุ่งฝน จ.อุดรธานี เป็นคนขับรถโตโยต้าวีโก้ สีบรอนซ์ ทะเบียน ผบ 9991 ขอนแก่น และอีกคันคือ รถกระบะมิตซูบิชิ ไทรทัน สีขาว ทะเบียน ฒบ 4570 กรุงเทพมหานคร มีนายพลรัตน์ ภูพู่ อายุ 36 ปี อยู่บ้านเลขที่ 132 หมู่ 7 บ้านทรายมูล ต.น้ำก่ำ อ.ธาตุพนม จ.นครพนม เป็นคนขับ เบื้องต้นทั้งหมดอาการปลอดภัย
จากการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจทราบว่า ก่อนเกิดเหตุ ขณะรถกระบะมาสด้า แค็บ สีเทา ทะเบียน บย 8624 สกลนคร มุ่งหน้ามาจาก จ.สกลนคร เข้าสู่ อ.นาแก จ.นครพนม ถึงที่เกิดเหตุได้พยายามขับแซงด้วยความเร็วสูง แต่แซงไม่พ้น ทำให้คนขับหักหลบ แต่พุ่งชนรถคันที่สวนมาอีกเลนถึง 2 คัน ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ รวม 9 ราย โดยเจ้าหน้าที่ได้แจ้งเตือนประชาชน ผู้ใช้รถใช้ถนน ให้ระมัดระวังเป็นพิเศษ เนื่องจากเส้นทางดังกล่าว เป็นเส้นทางหลักมาจาก จ.สกลนคร ทำให้การจราจรคับคั่ง ยิ่งช่วงเทศกาลสงกรานต์ แต่มีปัญหาถนนแคบ ไม่มีไหล่ทาง ทำให้เกิดอุบัติเหตุ บาดเจ็บ เสียชีวิต บ่อยครั้ง จนชาวบ้านเรียกว่าถนนมรณะ จนชาวบ้านให้ฉายาว่าถนนมรณะ 100 ศพ ควรงดใช้ความเร็ว และห้ามแซงในที่ขับขัน ซึ่งชาวบ้านเคยเรียกร้องให้หน่วยงานเกี่ยวข้องเสนองบประมาณมาปรับปรุงแก้ไขมานานหลายปี แต่ยังไม่ได้รับการแก้ไข เนื่องจากขาดงบประมาณ
ส่วนสถิติในช่วง 7 วันอันตราย ในพื้นที่ จ.นครพนม พบว่า ในช่วง 6 วัน มียอดผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุแล้ว 4 ราย มีผู้ได้รับบาดเจ็บแล้วกว่า 20 ราย โดยเจ้าหน้าที่ได้เพิ่มมาตรการเข้มในการป้องกันการเกิดอุบัติเหตุในช่วงส่งท้ายสงกรานต์ กำชับเข้มห้ามขับเร็ว ห้ามเมาแล้วขับ
