เอ็นจีโอขอซื้อต้นไม้ถนนสาย12 แลกไม่ถูกตัด เตรียมยื่นร้องนายกฯ-รมว.คมนาคมทบทวน 4 เม.ย.นี้

วันที่ 2 เมษายน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายศรีสุวรรณ จรรยา นายกสมาคมต่อต้านสภาวะโลกร้อน กล่าวว่า หลังจากได้ลงพื้นที่สำรวจอุโมงค์ต้นไม้ ถนนทางหลวงหมายเลข 12 (สระบุรี-หล่มสัก) อ.หล่มสัก จ.เพชรบูรณ์ ได้พบเห็นต้นไม้ใหญ่ต่างๆ ตลอดแนวถนนสาย 12 ที่จะถูกตัดทิ้งโดยผู้รับเหมาแล้วรู้สึกไม่สบายใจมาก เพราะต้นไม้มีขนาดใหญ่โตมีความสวยงามมากไม่เหมาะที่จะปล่อยให้หน่วยงานรัฐใช้เป็นข้ออ้าง โดยการนำมาประมูลซื้อขายกันแล้วต้องตัดโค่นไป เพราะกว่าที่ต้นไม้จะใหญ่โตถึงขนาดนี้ต้องใช้เวลานับ 100 ปีเลยทีเดียว

“โดยข้อเท็จจริงแล้วการขยายถนนสาย 12 ดังกล่าวสามารถทำได้โดยไม่ต้องตัดโค่นต้นไม้เลย โดยการสร้างทางเบี่ยงไปทางด้านข้างเป็นแนวคู่ขนานกับถนนเส้นทางเดิม ซึ่งยังมีพื้นที่ว่างเหลือพอฝั่งละเกือบ 20 เมตร สามารถก่อสร้างขยายถนนเป็นแนวคู่ขนานไปได้ โดยต้นไม้ใหญ่เหล่านี้นอกจากจะไม่ถูกตัดโค่นทิ้งแล้วยังสามารถใช้เป็นเกาะกลางถนนได้อีกด้วย จึงน่าจะเป็นทางออกที่ดีและยังทำให้เกิดความลงตัวแบบวินๆ ด้วยกันได้ทุกฝ่าย ไม่ว่าจะมุมมองด้านอนุรักษ์และด้านการพัฒนา” นายศรีสุวรรณ กล่าว

201604021007355-20021028190322

นายศรีสุวรรณ กล่าวว่า ส่วนกรณีที่มีการประมูลต้นไม้ไปแล้วนั้นประมาณ 1.2 ล้านบาทเศษนั้น และมีการนำเงินรายได้ส่วนนี้เข้าเป็นรายได้ของแผ่นดินไปเรียบร้อย หากมีการคืนเงินและเกรงว่าจะทำให้เกิดความยุ่งยากในเรื่องการเงินการคลังนั้น ทางสมาคมต่อต้านสภาวะโลกร้อนและประชาชนทั่วไป พร้อมยื่นข้อเสนอซื้อคืนต้นไม้ทั้งหมดที่เหลือจากผู้ประมูลตัดต้นไม้แม้ที่ผ่านมาจะทำการตัดโค่นไปบางส่วนแล้วก็ตาม และในวันจันทร์ที่ 4 เมษายนนี้ ทางสมาคมฯเตรียมจะเดินทางไปยื่นหนังสือต่อพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี รวมทั้งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เพื่อขอให้พิจารณาทบทวนในเรื่องนี้

“ผมเชื่อว่ามีประชาชนและหน่วยงานเอกชนจากทั่วประเทศจำนวนมาก ที่มีหัวใจรักษ์สิ่งแวดล้อมพร้อมให้ความร่วมมือกับสมาคมฯในการซื้อคืนต้นไม้ดังกล่าว เพราะที่ผ่านมาทั้งประชาชนและภาคเอกชนรวมทั้งรัฐบาลเอง ต้องเสียเงินรณรงค์ปลูกป่ากันปีๆ หนึ่งเป็นจำนวนมาก แต่ก็ยังมีความเสี่ยงว่าปลูกแล้วจะรอดหรือไม่ด้วย และถ้ารอดก็ต้องใช้ระยะเวลาหลายปีกว่าจะโตสวยงามได้ ฉะนั้นหากซื้อคืนต้นไม้ใหญ่เหล่านี้และมอบกลับคืนให้กรมทางหลวง เพื่ออนุรักษ์รักษาไว้ให้สวยงามโดยไม่ต้องเริ่มต้นปลูกใหม่และไม่ต้องบำรุงรักษา เพราะต้นไม้เหล่านี้ใหญ่โตสวยงามอยู่แล้ว” นายศรีสุวรรณ กล่าว

ADVERTISMENT

201604021007353-20021028190322