งามหน้า! ร้องตร.อุดรฯเรียกค่าเร่งคดี ซ้ำเติมทุกข์ลูกหนี้ดอกโหด ผกก.สั่งสอบแล้ว

เมื่อวันที่ 23 เมษายน ที่ศาลากลางจังหวัดอุดรธานี นางสร้อยแสงจันทร์ เผ่าผลงาม ในนามองค์การตรวจสอบอำนาจรัฐ (อตร.) พร้อมตัวแทนชาวบ้าน 7 อำเภอ อ.เมือง , หนองหาน , กุมภวาปี , เพ็ญ , กุดจับ , ประจักษ์ศิลปาคม และ บ้านผือ จ.อุดรธานีเข้ายื่นหนังสือต่อผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรธานี ขอบุคลากรปฏิบัติงานศูนย์ดำรงธรรม จ.อุดรธานี เนื่องจากก่อนหน้านี้ กลุ่มชาวบ้านเข้าร้องเรียนความเดือดร้อนจากหนี้นอกระบบ จนได้รับการตรวจสอบ-ไกล่เกลี่ย-แจ้งจับ แต่เจ้าหน้าที่ประสานงานถูกส่งตังกลับต้นสังกัด จึงขอให้มาทำหน้าที่เดิมไม่อยากเริ่มต้นใหม่ โดยมีเจษฎา ปานะถึก ผอ.กลุ่มงานศูนย์ดำรงธรรม จ.อุดรธานี เป็นตัวแทนรับเรื่องฯ และ รับมอบกระเช้าดอกไม้
นางสร้อยแสงจันทร์ เปิดเผยว่า ปัญหาที่เกิดขึ้นอย่างใน อ.หนองหาน ตัวนายทุนยังออกเก็บเงินดอกเบี้ยตามปกติ ด้านตำรวจ สภ.หนองหาน ยังไม่ได้สรุปสำนวนส่งอัยการแล้วชาวบ้านจะอยู่ได้อย่างไร ตนเดือดร้อนอยากได้ที่ดินคืน และพร้อมไถ่ที่ดินคืนแต่ต้องไม่เสียดอกเบี้ยมากเกินไป สำหรับ อ.เมือง พบลูกหนี้บางส่วนได้เงิน ได้ที่ดินคืนไปแล้ว พอมีการย้ายเจ้าหน้าที่ของศูนย์ดำรงธรรม จ.อุดรธานี กลับไปยัง กศน. จ.อุดรธานี ต้นสังกัดเดิม ชาวบ้านจึงอยากให้มาเจ้าหน้าที่มาดูแลต่อเนื่องนายบุญมี เนืองแก้ว อายุ 68 ปี ชาว ต.หนองไผ่ อ.เมือง จ.อุดรธานี กล่าวว่า ตนเป็นหนี้นายทุนใน อ.เมืองอุดรธานี ได้รับการไกล่เกลี่ยจนได้ที่ดินคืน วันนี้เดินทางมากับกลุ่มชาวบ้าน ต้องการให้คนทำงานเดิมมาสานต่อ ชาวบ้านที่เดือดร้อนจะได้รับช่วยเหลือต่อเนื่อง อีกทั้งเป็นห่วงชาวบ้านบางส่วนได้รับความเดือดร้อนจากพนักงานสอบสวนเรียกรับเงิน โดยอ้างเป็นค่าทีมงานดำเนินการ ซึ่งตนจ่ายไปถึง 20,000 บาท
“ตำรวจขอค่าดูแล 25,000 บาท ผมบอกว่าจะหาจากไหนมันเยอะ โดยเคยตั้งใจจะให้สินน้ำใจ 4,000 – 5,000 บาท เมื่อลูกชายและหลานสาวมาคุย มีการโต้เถียงกันสักพัก หลานสาวทักว่าไม่ผิดกฎหมายหรือ ตำรวจก็บอกว่าไม่ผิดเป็นน้ำใจ ถ้าตำรวจไม่ทำงานให้จะได้เงินได้ที่ดินคืนไหม พอคุยไปคุยมาจึงจ่ายเงินไป 20,000 บาท เพราะอยากกลับบ้านเหนื่อยมาทั้งวัน ก่อนกลับตำรวจย้ำว่าอย่าไปพูดต่อนะ ระหว่างเดินทางกลับบ้านก็โทรมาย้ำอีก 3 ครั้ง วันนี้จึงมารู้ว่ามีผู้เดือดร้อนรายอื่น ที่ถูกเรียกรับเงินเหมือนกัน จึงขอพูดบ้างเพื่อหยุดการกระทำนี้”ต่อมา นายบุญมี เนืองแก้ว และนางดวงสุมาลย์ โสภากุล อายุ 57 ปี ลูกหนี้ดอกโหดชาวอุดรธานี เดินทางเข้าพบ พ.ต.อ.ภูมิวิทย์ เวชกามา ผกก.สภ.เมืองอุดรธานี เพื่อแจ้งความร้องทุกข์ โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่ให้ผู้สื่อข่าวเข้าบันทึกภาพ และร่วมรับฟัง ใช้เวลาราว 1 ชั่วโมง
ผู้เดือดร้อนทั้งสองราย กล่าวว่า นายทุนยึดที่ดินที่ขายฝากไว้ ได้รับการแก้ไขจากศูนย์ดำรงธรรม และอัยการจังหวัดอุดรธานี มีการไกล่เกลี่ยทางแพ่ง มีพนักงานสอบสวน สภ.เมืองอุดรธานีดูแลคดี มีการตกลงคืนเงินดอกเบี้ยที่จ่ายเกิน และโอนที่ดินคืน มีหลักฐานเป็นเอกสารการทำธุรกรรมจากสำนักงานที่ดินชัดเจน หลังจากนายทุนกลับไป ตำรวจเข้ามาพูดคุยและขอเงินค่าดำเนินการในคดี โดยอ้างว่าเป็นค่าดูแลทีมงาน โดยนายบุญมีตกลงจ่ายเงินไป 20,000 บาท ส่วนนางดวงสุมาลย์ตกลงจ่าย 10,000 บาท ซึ่งตอนแรกคิดจะให้เป็นสินน้ำใจบ้าง แต่ไม่คิดว่าจะถูกเรียกเงินมากขนาดนี้พ.ต.อ.ภูมิวิทย์ เวชกามา ผกก.สภ.เมืองอุดรธานี เปิดเผยว่า ได้สั่งการพ.ต.ท.นิวัตร กุลศรี สว.สส.สภ.เมืองอุดรธานี สอบปากคำผู้เสียหายอย่างละเอียด หากเป็นจริงตามที่ร้องเรียน ต้องดำเนินการตรงไปตรงมา เพื่อให้เกิดความเป็นธรรม โดยเฉพาะตัวของประชาชนเองเดือดร้อนจึงมาพึ่งตำรวจ หากตำรวจทำเรื่องแบบนี้ ผู้บังคับบัญชาก็ไม่สบายใจ จึงให้ตนมารับเรื่อง ซึ่งจะตั้งคณะกรรมการขึ้นมาสอบสวนข้อเท็จจริง ส่วนเรื่องทางคดีได้มอบให้ พ.ต.ท.ณภัทร จูมวันทา รอง ผกก.สส. ภ.จว.อุดรธานี เข้ามารับผิดชอบแทน

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image