ศรีสะเกษ จับแล้วมือปืนฆ่าโหดวัยรุ่นเล่นสงกรานต์กลางเมือง ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน และชุดประดาน้ำ ช่วยกันงมหาอาวุธปืนที่คนร้ายใช้ก่อเหตุแต่ยังไม่พบ ด้านญาติผู้เสียชีวิตเรียกร้องให้มือปืนไปขอขมาศพผู้เสียชีวิต
เมื่อวันที่ 25 เมษายน 2561 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่บริเวณสะพานข้ามห้วยสำราญน้ำคำ ตำบลโพธิ์ อำเภอเมือง จังหวัดศรีสะเกษ เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดศรีสะเกษ และเจ้าหน้าที่ชุดประดาน้ำจากมูลนิธิกู้ภัยศรีสะเกษสงเคราะห์ ได้ไปงมหาอาวุธปืนที่คนร้ายใช้ก่อเหตุยิงวัยรุ่นกลางงานเทศกาลสงกรานต์ อ.เมืองศรีสะเกษ หลังจากที่เมื่อวานนี้ (25 เม.ย. 61) มือปืนผู้ก่อเหตุได้ให้การกับเจ้าหน้าที่ตำรวจว่าได้นำอาวุธปืนที่ใช้ก่อเหตุมาทิ้งลงน้ำที่บริเวณดังกล่าว โดยเจ้าหน้าที่ใช้เวลากว่า 4 ชั่วโมง ก็ยังไม่พบอาวุธปืนที่คนร้ายใช้ก่อเหตุแต่อย่างใด
ขณะที่ผู้ต้องหารายหนึ่งที่เจ้าหน้าที่ตำรวจออกหมายจับ คือ นายภูมินทร์ ภูทองบ่อ หรือ บุ๊ก ชาว ตำบลโพธิ์ อำเภอเมือง จังหวัดศรีสะเกษ ก็ได้ขอเข้ามอบกับกับเจ้าหน้าที่ตำรวจแล้ว ทำให้เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมผู้ต้องหาที่ร่วมก่อเหตุและออกหมายจับได้ครบทุกรายแล้ว
ต่อมาเมื่อช่วงบ่ายของวันเดียวกันนี้ ที่บริเวณด้านหน้าธนาคารแห่งหนึ่ง ริมถนนขุขันธ์ ต.เมืองใต้ อ.เมือง จ.ศรีสะเกษ พลตำรวจตรี สุรเดช เด่นธรรม ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดศรีสะเกษ ได้นำตัว นายนิพนธ์ คำตัน หรือ เทา ผู้ต้องหาที่ใช้ปืนยิงวัยรุ่นเสียชีวิตกลางงานเทศกาลสงกรานต์ ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพบริเวณที่เกิดเหตุ โดยมี พ่อแม่ และญาติพี่น้องของผู้เสียชีวิต และผู้บาดเจ็บ นำรูปผู้เสียชีวิต เดินทางไปร่วมดูหน้าผู้ต้องหา และดูการทำแผนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ พร้อมร้องขอให้ผู้ต้องหาไปขอขมาผู้เสียชีวิตต่อหน้ารูปถ่ายด้วย ทั้งนี้หลังทำแผนบริเวณจุดที่เกิดเหตุเสร็จแล้วเจ้าหน้าที่ก็ได้นำตัวผู้ต้องหาไปชี้จุดที่นำอาวุธปืนไปทิ้ง ก่อนจะนำตัวผู้ต้องทั้งหมดไปฝากขังต่อไป
พล.ต.ต.สุรเดช เด่นธรรม ผบก.ภ.จว.ศรีสะเกษ กล่าวว่า จากการสอบสวน นายนิพนธ์ ได้ให้การรับสารภาพว่า ทำงานเป็นพนักงานขับรถส่งสินค้าอยู่ที่กรุงเทพฯ และได้กลับมาเล่นสงกรานต์ที่บ้าน เป็นผู้ที่ใช้อาวุธปืนขนาด .38 ที่ซื้อมาในราคา 8,000 บาท ยิงผู้เสียชีวิตจริง เนื่องจากเพื่อนที่เล่นสงกรานต์ด้วยกันวิ่งมาบอกว่า โดนรุมทำร้าย นายนิพนธ์จึงได้เข้าไปช่วยเพื่อนและมีการชกต่อยกันชุลมุน และได้ใช้ปืนยิงใส่กลุ่มวัยรุ่นทำให้มีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิต จากนั้น ได้นำเอาอาวุธปืนไปทิ้งที่บริเวณสะพานห้วยสำราญ ซึ่งยังหาอาวุธปืนไม่พบ พนักงานสอบสวนจึงได้ตั้งข้อหาว่า ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา มีและพกพาอาวุธปืนเข้าไปในเมือง หมู่บ้าน ทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต และร่วมกันพยายามฆ่าผู้อื่น ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
