เมื่อวันที่ 30 เมษายน ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้ากรณีคนร้ายใช้อาวุธปืนลอบยิงถล่มรถยนต์ของนายทวีศักดิ์ ยอดมณีบรรพต อายุ 54 ปี กำนัน ต.ปอ อ.เวียงแก่น จ.เชียงราย บนถนนตะเข็บชายแดนไทย-สปป.ลาว หมู่บ้านร่มฟ้าทอง หมู่ 18 ต.ปอ เมื่อวันที่ 24 เมษายน จนทำให้นายทวีศักดิ์และลูกชายวัย 3 ขวบ บาดเจ็บสาหัส ส่วนภรรยาและลูกสาววัย 5 ขวบเสียชีวิต ล่าสุดเจ้าหน้าที่ตรวจชุดคลี่คลายคดียังคงฝังตัวอยู่ในพื้นที่ชายแดนไทย-สปป.ลาว อ.เวียงแก่น และใกล้เคียงอย่างต่อเนื่อง โดยใช้ชุดสืบสวนจากนอกพื้นที่โดยเฉพาะจาก บก.สส.ภ.5 ซึ่ง พล.ต.ท.พูลทรัพย์ แต่งตั้งให้รอง ผบช.ภ.5 แต่ละฝ่ายได้เข้าไปปฏิบัติการโดยตรง ทำให้ผู้คนในพื้นที่ไม่รู้จักหน้าตาหรือคุ้นเคยเหมือนเจ้าหน้าที่ที่เคยปฏิบัติหน้าที่อยู่ในพื้นที่ตามปกติ
ขณะเดียวกัน พล.ต.ต.ชูรัตน์ ปานเหง้า รอง ผบช.ภ.5 ในฐานะหัวหน้าชุดคลี่คลายคดีดังกล่าวได้เดินทางไปยัง สภ.เวียงแก่น ด้วยตัวเองเพื่อดูหลักฐานรถยนต์กระบะยี่ห้อโตโยต้า สีบรอน หมายเลขทะเบียน ผค 4115 เชียงราย ซึ่งเป็นรถของนายทวีศักดิ์ที่ถูกยิงและเจ้าหน้าที่นำไปจอดเอาไว้ที่ สภ.เวียงแก่น ในสภาพที่ถูกยิงจนพรุน โดยเฉพาะกระจกด้านผู้โดยสารข้างคนขับ และด้านหน้าคนขับรวมทั้งฝากระโปรงรวมไม่ต่ำกว่า 45 รู กระสุนบางส่วนยังเจาะที่ยางรถยนต์ด้านหน้าขวาจนยางแบนอย่างละเอียดอีกครั้ง
นอกจากนี้ หลังจาก พล.ต.ต.ชูรัตน์ ได้เดินทางไปตรวจสอบสภาพพื้นที่เกิดเหตุตรงทางโค้งถนนสายร่มฟ้าทอง-บ้านผาตั้ง พื้นที่บ้านร่มฟ้าทอง หมู่ 18 ต.ปอ รวมทั้งบางจุดที่เกี่ยวข้องก่อนจะเดินทางกลับไปประชุมร่วมกับชุดคลี่คลายคดีที่ห้องประชุม สภ.เวียงแก่น ซึ่ง พล.ต.ท.พูลทรัพย์ ได้แต่งตั้งให้ พล.ต.ต.ภานุเดช บุญเรือง รอง ผบช.ภ.5 และ พล.ต.ต.ประจวบ วงศ์สุข รอง ผบช.ภ.6 ปฏิบัติราชการแทนรอง ผบช.ภ.5 เป็นรองหน้าหัวหน้า เบื้องต้นมีรายงานว่า ได้มีการมอบหมายให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายสอบสวนได้เรียกสอบปากคำบุคคลต่างๆ เพิ่มเติมนอกเหนือไปจากการสอบปากคำนายทวีศักดิ์โดยตรงที่โรงพยาบาลที่ จ.เชียงใหม่ และผู้พบเห็นเหตุการณ์รวมถึงผู้ใหญ่บ้านในพื้นที่เกิดเหตุมาก่อนหน้านี้แล้วด้วย ตลอดจนการตรวจสอบกล้องวงจรปิดที่อยู่ตามถนนที่คาดว่า เป็นเส้นทางหลบหนีของคนร้ายแต่ยังไม่พบวี่แววแต่อย่างใด
