เมื่อวันที่ 1 พฤษภาคม นายสุรัตน์ มุนินทรวงศ์ นายกสมาคมชาวไร่สับปะรดไทย ในฐานะรองประธานสภาเกษตรกร จ.ประจวบคีรีขันธ์ เปิดเผยว่า จากสถานการณ์ราคาผลผลิตสับปะรดมีราคาตกต่ำเหลือเพียงกิโลกรัม (กก.) ละ 2.20 -2.40 บาท ขณะที่โรงงานสับปะรดกระป๋องเพื่อการส่งออกรับซื้อ กก.ละ 2.80 บาท จากเดิมราคา 5-6 บาท ทำให้การผลิตไม่คุ้มกับต้นทุนที่ กก.ละ 4.60 บาท ส่งผลให้เกษตรกรชาวไร่สับปะรดได้รับความเดือดร้อนอย่างหนัก หลังราคาตกต่อเนื่องนานกว่า 6 เดือน เนื่องจาก จ.ประจวบคีรีขันธ์ มีพื้นที่ปลูกสับปะรดมากที่สุดในประเทศ นอกจากนั้นช่วงกลางเดือนพฤษภาคมจะมีผลผลิตออกมาเพิ่ม ทำให้ราคาลดลงอีก ประกอบกับโรงงานรับซื้ออ้างว่ามีปัญหาจากการผลิตเพื่อส่งออกและเงินบาทแข็งค่า ทำให้มีผลกระทบเพิ่มขึ้นอย่างแน่นอน
นายสุรัตน์กล่าวว่า สำหรับแนวทางการช่วยเหลือนั้น ที่ผ่านมาสมาคมฯได้ทำหนังสือถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการประชุมคณะกรรมการพัฒนาสับปะรดร่วมกับรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ขอให้เร่งระบายผลผลิตสับปะรดผลสดไปจำหน่ายในจังหวัดอื่น แต่ขณะนี้ยังไม่มีความคืบหน้า ขณะที่โรงงานแปรรูปยอมรับว่าจะรับซื้อสับปะรดจากโควต้าเดิมของเกษตรกรเท่านั้น สำหรับผลผลิตส่วนเกินไม่สามารถแบกรับภาระได้ ส่วนการประชุมในคณะกรรมการไตรภาคีระดับจังหวัดก็ไม่ความคืบหน้าเท่าที่ควร
นายสมจิตร์ งุ่ยไก่ แกนนำกล่มผู้ปลูกสับปะรด ต.อ่าวน้อย อ.เมือง จ.ประจวบคีรีขันธ์ กล่าวว่า ขณะนี้ราคารับซื้อที่แผงรายย่อยเหลือเพียง กก.ละ 1.50-1.70 บาท โดยผู้ขายขาประจำในพื้นที่ต้องจองวันตัดสับปะรด และแจ้งล่วงหน้าเพื่อให้แผงรับโควต้าจากโรงงานสับปะรดกระป๋อง นอกจากนั้นยังมีการคัดขนาดตามเกณฑ์ที่โรงงานกำหนด หากแผงไม่รับซื้อชาวไร่จะนำผลผลิตไปจำหน่ายในราคาถูกเพื่อนำไปทำสับปะรดกวนต่อไป
