เมื่อเวลา 12.00 น. วันที่ 3 พฤษภาคม 2561 ที่จ.ขอนแก่น พล.ต.ท.สุรชัย ควรเดชะคุปต์ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 4 (ผบช.ภ.4) พร้อมพล.ต.ต.ยรรยง เวชโอสถ ผบก.สส.ภ.4 พ.ต.อ.ยุทธกร วงเวียน ผกก.สภ.อุบลรัตน์ พ.ต.อ.พงษ์ฤทธิ์ คงสิริสมบัติ ผกก.สส.3 บก.สส.ภ.4 พ.ต.อ.นรวัฒน์ คำพิโล ผกก.สภ.เขาสวนกวาง เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน ร่วมกันคุมตัวนายวิรัตน์ สังข์เภา อายุ 30 ปี อยู่บ้านเลขที่ 116 หมู่ที่ 2 ต.นาคำ อ.อุบลรัตน์ จ.ขอนแก่น ผู้ต้องหาคดีวางเพลิงเผาทรัพย์ผู้อื่นและร่วมกันปกปิดการกระทำความผิดของผู้อื่น ไปทำแผน จุดราดน้ำมันเผารถยนต์กระบะยี่ห้ออีซูซุ สีดำ 4 ประตู ทะเบียน กม 9329 ขอนแก่น ที่นายสุทัด ทัดจันดา อายุ 49 ปี ชาวลาวถูกฆ่าปาดคอ ถูกพบศพในพื้นที่บ้านขุนด่าน หมู่ 1 ต.นาคำ อ.อุบลรัตน์ จ.ขอนแก่น เมื่อวันที่ 29 เมษายนที่ผ่านมา จากนั้นคุมตัวไปทำแผนที่จุดซื้อน้ำมันเบนซินที่ร้านค้า พื้นที่บ้านโคกกลาง หมู่ 5 ต.ศรีสุขสำราญ อ.อุบลรัตน์ จ.ขอนแก่น ซึ่งอยู่ห่างจากจุดเผารถยนต์ 30 กิโลเมตร
พล.ต.ท.สุรชัยกล่าวว่า สืบเนื่องจากในวันที่ 29 เมษายน 2561 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.อุบลรัตน์ ได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่ามีคนถูกฆ่าตายที่หนองน้ำในพื้นที่บ้านขุนด่าน หลังชันสูตรศพพบผู้ตายถูกฆ่าปาดคอ จากการสืบสวนพบว่าผู้ตายพัวพันกับยาเสพติด และมีพยานยืนยันว่าก่อนเสียชีวิต มีนายวิญญู จันตะพต อายุ 33 ปี หรือ นายมืด ซึ่งปัจจุบันถูกคุมขังในเรือนจำกลางขอนแก่นโทรศัพท์เรียกไปพบ เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนจึงลงพื้นที่ร่วมกันสืบสวนหาตัวคนร้ายที่ฆ่าชาวลาวรายดังกล่าว มีพยานยืนยันว่านายวิรัตน์ สังข์เภา อายุ 30 ปี หรือนายแข่วอยู่กับนายวิญญู จึงติดตามตัวนายแข่ว กระทั่งพบความเคลื่อนไหวในเมืองขอนแก่น ก่อนควบคุมตัวนายแข่วได้ในเขตเทศบาลนครขอนแก่นพร้อมยาบ้า 76 เม็ด จึงแจ้งข้อหามียาเสพติดประเภท 1 (ยาบ้า) ไว้ในครอบครองโดยผิดกฎหมาย
“จากการสอบสวนขยายผล ทราบว่านายแข่วรับยาบ้าดังกล่าวมาจากนายมืด นายแข่วยังให้การอีกว่า เที่ยงคืนวันที่ 26 เมษายน 2561 นายมืดโทรศัพท์ให้ขี่รถจักรยานยนต์ไปพบที่ป่าชุมชนบ้านขุนด่าน เมื่อไปพบนายมืดให้ยาบ้า 2,000 เม็ด จากนั้นกลับบ้าน วันที่ 27 เมษายน นายมืดโทรศัพท์ให้ซื้อน้ำมันไปให้และนัดรับน้ำมันที่ปากทางบ้านดงเย็น ช่วงเย็นวันเดียวกันจึงซื้อน้ำมันไปส่งให้นายมืด 3 ลิตร โดยขับขี่รถจักรยานยนต์ไปส่งให้นายมืดที่จุดนัดหมาย จากนั้นนายมืดให้นำทางไปที่ชายป่าเพื่อเผาทำลายรถ แต่นายแข่วไม่ได้ถามว่าเผารถเพราะสาเหตุใด เนื่องจากเกรงใจนายมืดที่ให้ยาบ้ามาโดยไม่เก็บเงิน จากนั้นพาไปที่จุดเผารถยนต์และต่างคนต่างราดน้ำมันใส่รถยนต์ จากนั้นนายมืดได้จุดไฟเผารถยนต์ในช่วงกลางดึกคืนวันที่ 27 เมษายน หลังจากนั้นขับขี่รถจักรยานยนต์กลับบ้านและแยกย้ายกันไป กระทั่งนายแข่วถูกตำรวจจับพร้อมยาบ้า” พล.ต.ท.สุรชัยกล่าวและว่า
ขณะนี้คดีฆ่าปาดคอคนลาวคลี่คลายแล้ว ส่วนนายมืด พนักงานสอบสวน สภ.อุบลรัตน์ ได้ฝากขังต่อศาลและถูกขังในเรือนจำกลางขอนแก่น ซึ่งพนักงานสอบสวนต้องทำสำนวนส่งให้อัยการเพื่อแจ้งข้อหาเพิ่มในข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน และข้อหาเผาทำลายทรัพย์ ส่วนนายแข่วพนักงานสอบสวน สภ.อุบลรัตน์ จ.ขอนแก่น จะทำเรื่องอายัดตัวไปยังสภ.เมืองขอนแก่น ในข้อหาร่วมกันวางเพลิงเผาทรัพย์ และข้อหาร่วมปกปิดการกระทำความผิดของผู้อื่น
ในคดีฆ่าปาดคอชาวลาว สรุปสาเหตุการตายมาจากการฆ่าล้างหนี้เรื่องการขายยาเสพติดที่ผู้ตายนำยาเสพติดมาให้เครือข่ายในพื้นที่ อ.อุบลรัตน์ เขาสวนกวาง และน้ำพองขาย ในลักษณะรับยาเสพติดไปก่อน จ่ายเงินทีหลัง และในคืนวันที่ออกมาหานายมืด ผู้ตายนัดหมายพูดคุยกับเครือข่ายในการซื้อขายยาเสพติดในจุดที่พบศพ จึงเป็นการตายจากการลงมือฆ่าของเครือข่ายยาเสพติด
