พ่อร้องสื่อ! ลูกถูกทำร้ายเสียชีวิต อ้างทหารเกี่ยวข้อง ขอความเป็นธรรมถึงที่สุด(คลิป)

เมื่อวันที่ 8 พฤษภาคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ จ.นครพนม นายดุสิต ถานัน อายุ 65 ปี อยู่ที่บ้านชลประทาน ต.โคกหินแฮ่ อ.เรณูนคร จ.นครพนม พร้อมญาติพี่น้อง ได้นำเอกสารหลักฐานสำคัญ เข้าร้องทุกข์ขอความเป็นธรรมผ่านสื่อมวลชนไปยังหน่วยงานทหาร กรณีได้รับความเดือดร้อน เนื่องจาก นายพัฒนพงษ์ ถานัน อายุ 36 ปี ลูกชาย ซึ่งเคยทำงานบริษัทเอกชน เงินเดือนสูงกว่า 20,000 บาท และจบการศึกษาถึงระดับชั้นปริญญาตรี สาขารัฐศาสตร์จากมหาวิทยาลัยราคำแหง ถูกเจ้าหน้าที่ทหารชุดรักษาความสงบเรียบร้อย เจ้าหน้าที่ ทหารชุดรักษาความสงบเรียบร้อย อ.เรณูนคร จ.นครพนม สังกัด มณฑลทหารบกที่ 210 นครพนม จำนวน 3 นาย ทำร้ายร่างกาย บริเวณทุ่งนาใกล้หมู่บ้านเมื่อเวลา 09.00 น.วันที่ 16 เมษายนที่ผ่านมา โดยใช้อาวุธปืนยิง และใช้ไม้ทุบตีศีรษะจนเสียชีวิต เและแม้ถูกนำตัวส่งไปรักษาที่โรงพยาบาลอำเภอเรณูนคร จ.นครพนม แต่ไม่สามารถยื้อชีวิตได้ ทั้งนี้ ผลการชันสูตรของเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.นาโดน และแพทย์โรงพยาบาลเรณูนคร ได้สรุปสาเหตุการเสียชีวิตมากจาก ได้รับบาดเจ็บจากกระสุนปืนไม่ทราบขนาด จำนวน 1 นัดบริเวณ ขาขวา 1 นัด นอกจากนี้ศีรษะยังถูกทุบตีด้วยของแข็งจนศีรษะยุบ

ภายหลังลูกชายเสียชีวิต พ่อและญาติผู้ตายได้ นำศพลูกชาย ไปเก็บไว้ในโลงเย็น เพื่อบำเพ็ญกุศลตามประเพณีที่วัดศรีธนนชัย บ้านนาโดนใหม่ หมู่ 7 ต.โคกหินแฮ่ อ.เรณูนคร จ.นครพนม โดยทางผู้เสียหายได้ยืนยันว่า จะไม่ยอมทำพิธีฌาปนกิจศพ จนกว่าจะมีหน่วยงานทหารออกมารับผิดชอบ เนื่องจากหลังเกิดเหตุได้ไปแจ้งความร้องทุกข์ไว้ ที่ สภ.นาโดน อ.เรณูนคร จ.นครพนม เมื่อวันที่ 17 เมษายน 2561 จนกระทั่งปัจจุบันเกือบ 1 เดือน ยังไม่มีความคืบหน้าทางคดี ทั้งที่รู้ตัวผู้ก่อเหตุ ที่สำคัญยังไม่มีหน่วยงานทหารเข้ามาดูแลช่วยเหลือครอบครัว ทางญาติจึงต้องเก็บรักษาศพผู้ตายไว้ จนกว่าจะได้ความชัดเจน ในการช่วยเหลือเยียวยา และเชื่อว่าจะต้องมีการวิ่งเต้นเกี่ยวกับคดี เพราะผู้ทำผิดเป็นทหาร จึงต้องเรียกร้องผ่านสื่อขอความเป็นธรรม

นายดุสิต ถานัน อายุ 65 ปี พ่อผู้เสียชีวิต เล่าถึงความสูญเสียว่า สำหรับลูกชายตนที่เสียชีวิตเป็นลูกชายคนโต มีลูกทั้งหมด 3 คน ยืนยันว่าเป็นคนดี เรียนหนังสือเก่ง ตนหาเงินรับจ้าง ทำไร่ทำนา ส่งเรียนหนังสือ จบการศึกษาระดับปริญญาตรี สาขารัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยราคำแหง เมื่อปี 2550 จากนั้นได้ทำงานบริษัทเอกชนที่ กทม.ได้เงินเดือนกว่า 20,000 บาท ส่งมาดูแล พ่อแม่ เป็นเสาหลัก เป็นความหวังครอบครัว อีกทั้ง เป็นคนขัย ตั้งใจเรียน ไม่เคยเกเร เหล้าไม่ดื่ม บุหรี่ไม่สูบ ชาวบ้านที่รู้จักสามารถยืนยันได้ จนกระทั่ง 4 – 5 ปี ที่ผ่านมา ลูกชายได้ตัดสินใจไปทำงานเมืองนอก เนื่องจากมีเพื่อนชวนว่าค่าแรงสูง อยากช่วยพ่อแม่ ให้มีฐานะดี ขึ้น จึงตัดสินใจลาออกไปทำงานประเทศฟินแลนด์ แต่ผิดหวังถูกหลอกไป 3 เดือน ถูกส่งกลับ หลังกลับมามีปัญหาเกิดความเครียด เพราะเป็นคนจริงจังกับชีวิต จึงตัดสินใจมาช่วยพ่อ ทำไร่ทำนาอยู่บ้าน ช่วยพ่อแม่ ทำเกษตร จนกระทั่งช่วง ปีที่ผ่านมา เกิดป่วยโรคเครียดจนต้องนำไปตรวจรักษาที่โรงพยาบาลจิตเวชนครพนมราชนครินทร์ หมอจึงให้ยามารับประทานรักษาต่อเนื่อง แต่ไม่ได้รุนแรงมาก และเคยนำตัวไปพักฟื้นที่โรงพยาบาล แต่ไม่ยอมอยู่หนีกลับมาอยู่บ้าน สงสารลูกจึงไม่ได้บังคับ แต่ช่วงหลังไม่ยอมกินยา มีการการเครียดซึมเศร้า แต่ไม่ถึงทำร้ายใครรุนแรง มีเพียงทะเลาะกันในครอบครัว แต่ยังสามารถทำงานช่วยเหลือครอบครัวได้ปกติ

ล่าสุดวันเกิดเหตุผู้ตายได้มีปากเสียงทะเลาะกับหลานสาว อายุ 17 ปี ที่ตนเอามาดูแล เนื่องจากผู้ตายต่อว่าเป็นห่วง เพราะเห็นว่ากำลังเขาสู่วัยรุ่น ทางหลานสาวจึงตอบโต้ตามประสาวัยรุ่น จนไม่พอใจกัน ผู้ตายจึงเอามีดมาพยายามทำร้ายร่างกาย และถูกขาหลานสาวเป็นแผล แต่ไม่ได้เป็นแผลลึกมาก ตนผู้เป็นพ่อจึงดุด่า และห้ามไว้ และผู้ตายได้สงบสติอารมณ์ ต่อมาจึงได้หารือกับเพื่อนบ้าน ผู้นำชุมชน อยากหาทางนำลูกไปรักษา เพราะช่วงหลังกลายเป็นคนสูบบุหรี่จัด แต่ไม่ดื่มเหล้า จนมีคนแนะนำให้ติดต่อทหารมาช่วยคุมตัวไปรักษาฟื้นฟูที่โรงพยาบาลจิตเวชนครพนมราชนครินทร์ โดยไม่คาดคิดว่าจะมีเหตุรุนแรงขั้นนี้

Advertisement

นายดุสิต ถานัน กล่าวอีกว่า เช้าวันเกิดเหตุขณะตนไม่อยู่บ้านไปทำธุระพาหลานสาวไปล้างแผลที่โรงพยาบาลอำเภอเรณูนคร ลูกชายอีกคนโทรมาแจ้งว่า ทหารจะมาคุมตัวพี่ชาย คือผู้ตายไป หลังตนได้ติดต่อขอความช่วยเหลือไป ตนพยายามแจ้งให้รอตนกลับไปบ้าน แต่ไม่ทัน ขณะผู้ตายไปเฝ้าสวนเกษตรในทุ่งนา ทหารได้เข้าไปหาพูดคุยจะคุมตัวไปรักษา แต่ผู้ตายขันขืนวิ่งหนี เพราะเป็นคนที่มีความเครียดอยู่แล้ว คงเกิดความหวาดกลัว ทหาร 3 นาย พยายามเข้าจับกุมตัว จนเกิดความรุนแรง จนลูกชายอีกคนพยายามวิ่งไปช่วยเหลือไม่ทัน หลังลูกชายอีกคนไปดูสภาพว่าน่าจะเสียชีวิต ทหารจึงพยายามหาทางนำตัวส่งไปรักษาที่โรงพยาบาลอำเภอเรณูนคร แต่ไม่ทันเสียชีวิตแล้ว

“ผมถามคืนว่าฆ่าลูกผมทำไม ลูกผมผิดอะไร แค่ป่วยเครียดยังไม่ได้ฆ่าใครตาย ผมเพียงอยากให้มาช่วยนำไปรักษาตัว เพราะเป็นความหวังครอบครัว ทุกวันถึงป่วยเครียดแต่ยังทำงานช่วยเหลือครอบครัวได้ตลอด มาถึงวันนี้ครอบครัวสูญเสียครั้งใหญ่ แต่ไม่มีใครยื่นมือมาช่วยเหลือ แจ้งความตำรวจไปยังเงียบ มีเพียงขอเสนอเงินช่วยเหลือแค่แสนบาท ผมยืนยันไม่รับ ยอมนำศพลูกชายแช่เย็นไว้ในโรงเย็นที่วัด จนกว่าจะมีคนออกมารับผิดชอบ จะร้องขอความเป็นธรรมให้ถึงที่สุด รู้ตัวว่าเป็นชาวบ้านไม่มีเส้นมีสาย แต่จะขอสู้ขอความเป็นธรรมให้ลูกชายถึงที่สุด คนทำผิดต้องได้รับผิด ถึงเงินทองได้มากแค่ไหน ไม่คุ้มกับการสูญเสีย” ผู้เป็นพ่อกล่าว

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image