ว่าที่ร้อยตรี สมัย คำชมภู ปลัด จ.พะเยา เปิดเผยว่า ประชุมร่วมคณะอนุกรรมการแก้ไขปัญหาการบุกรุกที่ดินของรัฐในพื้นที่พะเยาครั้งที่ 1/ 2561 วัตถุประสงค์เพื่อพิจารณาการร้องเรียน กรณีประชาชนอ้างสิทธิในที่ดินริมกว๊านพะเยาและที่ดินในพื้นที่พะเยาอำเภออื่นๆ รวม 3 ราย รายที่ 1 นายเกษม สมบุญ ตัวแทนเกษตรกรและราษฎร ต.หงส์หิน อ.จุน-พะเยา ร้องคัดค้านกรณีสำนักงานที่ดินสาขาจุน ส่งเจ้าหน้าที่เข้ารังวัดและวางหมุดแนวเขตพื้นที่ นสล. ต.หงส์หิน การรังวัดไม่มีหลักฐานแนวเขตที่ดินเดิม มีแต่พื้นที่กรมที่ดินอ้างสิทธิเท่านั้น ที่ดังกล่าวล่าสุดชาวบ้านครอบครองเป็นที่ทำกินและที่อยู่อาศัย การคัดค้านกษตรกรอ้างมีเอกสารสิทธิเมื่อปี 2521-2528 ที่ประชุมได้มีมติให้นายอำจุน ออกประกาศและมีหนังสือให้ราษฎรนำหลักฐาน เอกสารกรรมสิทธิ์ในที่ดิน ไปยื่นแสดงสิทธิต่อทางอำเภอใน 60 วัน เพื่อพิสูจน์สิทธิในที่ดิน รายที่ 2.นายผัด ธนะวงค์ พร้อมพวกรวม 4 คน ร้องเรียนเพราะเป็นผู้ถือหนังสืออนุญาต เข้าทำประโยชน์เขตปฏิรูปที่ดิน (ส.ป.ก.4-01) พื้นที่ ต.พระธาตุขิงแกง อ.จุน-พะเยา ทั้งนี้ ทางการได้นำที่ดินของผู้ร้องไปออกโฉนดให้กับผู้อื่นทั้งที่ผู้ร้องไม่ยินยอม ประเด็นนี้ที่ประชุมพิจารณายกเรื่องไปยังหน่วยงานกระบวนการยุติธรรม เพื่อรอคำพิพากษาชั้นศาล
ว่าที่ ร.ต.สมัยกล่าวอีกว่า รายที่ 3.นายจรัญ มีทอง ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 14 ต.บ้านต๋อม อ.เมืองพะเยา ร้องเรียนกรณีคณะกรรมการหมู่บ้านที่ 14 และคณะกรรมการบริหารท่าเรือบ้านร้องห้าหมู่ 14 ต.บ้านต๋อม จะดำเนินการพัฒนาและปรับปรุงพื้นที่ท่าเรือบ้านร่องห้า ตั้งอยู่ในบริเวณพื้นที่ริมตลิ่งกว๊านพะเยา ผู้ร้องอ้างว่าที่ดังกล่าวเป็นที่สาธารณประโยชน์ จากการตรวจสอบที่ดังกล่าว เป็นที่ดินพิพาทที่มีการออกโฉนดรวม 2 แปลง ที่ 1 ของนายปิติพล อภิจิต ออกโฉนดที่ดินตามหลักฐานใบจองเลขที่ 909 หมู่ที่ 14 (1) ต.บ้านต๋อม เนื้อที่ 1 ไร่ ระบุการได้มาโดยครอบครอง แปลงที่ 2 ของนางชิวรัตน์ เตียตระกูล ออกโฉนดที่ดินโดยใบจองเลขที่ 910 หมู่ที่ 14 (1) ต.บ้านต๋อม เนื้อที่ 2 ไร่ ขั้นตอนการออกใบจองได้มีการติดประกาศตามระเบียบ ไม่ปรากฏว่ามีบุคคลใดโต้แย้งคัดค้านสิทธิในที่ดินแต่อย่างใด ปัญหาการบุกรุกที่ดินของรัฐ ได้ขยายออกไปในวงกว้างทั่วทุกตำบล, อำเภอในพื้นที่พะเยารวม 9 อำเภอ
ด้านนายสมชาติ ธรรมขันทา ผอ.ศูนย์วิจัยและพัฒนาประมงน้ำจืดพะเยา(เขต1) จ.พะเยา เปิดเผยว่า ทางหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในสังกัดกรมประมงพื้นที่พะเยา ได้ตรวจสอบเอกสารทั้งภาคพื้นดินและทางอากาศ(แผนที่จานดาวเทียม) เบื้องต้นเจ้าของที่ดิน 2-3 ราย ได้ครอบครองที่ดินไม่ถูกต้องหรือผิดกฎหมาย กล่าวคือนำเจ้าหน้าที่รังวัดรุกล้ำแนวเขตที่ดิน เขตติดต่อรุกล้ำกับที่ดินเป็นที่หลวง ตามหนังสือสำคัญเลขที่ พย 0157 เป็นที่ราชพัสดุของกรมประมง หมายเลขทะเบียน ที่ พย 7บริเวณกว๊านพะเยาเนื้อที่กว่า 12.600 ไร่ และภาพรวมพื้นที่กว๊านพะเยาถูกบุกรุกกว่า 2.000 ไร่ ในส่วนรับผิดชอบได้คัดค้านการรังวัดออกโฉนดที่ดินที่กล่าวมาข้างต้น เพราะเป็นที่สาธารณสมบัติของแผ่นดินตามมาตรา 1304(2) แห่งประมวลกฎหมายแพ่งพาณิชย์ อันเข้าข่ายลักษณะเป็นที่ต้องห้ามมิให้ออกโฉนดที่ดินทุกกรณี
