ไร้วี่แวว ‘แหม่มรัสเซีย’ หายตัวบนเกาะสมุยเข้าวันที่ 20 พ่อเชื่อยังมีชีวิต(คลิป)

พ่อของแหม่มสาวชาวรัสเซีย ยังคงร่วมกับตำรวจ และทีมกู้ชีพเกาะสมุย เพื่อค้นหาตัวบุตรสาวที่หายตัวไปบนเกาะสมุยเข้าสู่วันที่ 20 แล้ว โดยเชื่อว่าลูกสาวยังมีชีวิตอยู่ หลังจากเมื่อ 5 วันที่ผ่านมามีผู้พบตัวหญิงสาวชาวต่างชาติลักษณะใกล้เคียงกับผู้สูญหายยืนอยู่หน้าวัดละไม

เมื่อวันที่ 10 พ.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เกาะสมุย ร่วมกับ กู้ชีพกู้ภัยเทศบาลนครเกาะสมุย และศูนย์เหลือนักท่องเที่ยว กระทรวงท่องเที่ยวและกีฬา ยังคงนำกำลังออกค้นหา น.ส.อินน่า อาบู๊คนอฟ อายุ 39 ปี นักท่องเที่ยวชาวรัสเซีย ที่เดินออกจากโรงแรมเซ็นทรา โคโคนัท บีช รีสอร์ท สมุย หมู่ 4 ต.ตลิ่งงาม อ.เกาะสมุย เมื่อช่วงเวลาประมาณ 09.00-10.00น. ของวันที่ 21 เม.ย.ที่ผ่านมา แล้วหายตัวไปไม่สามารถติดต่อได้ตั้งแต่วันดังกล่าว โดยนายเซอร์เกย์ อาบู๊คนอฟ พ่อของนักท่องเที่ยวสาวรัสเซีย พร้อมด้วยล่ามชาวรัสเซีย บินตรงจากประเทศรัสเซีย ติดตามการค้นหาอย่างใกล้ชิด ด้วยความหวังที่ว่าจะเจอตัวลูกสาวที่หายไป

โดยตลอดทั้งวันเจ้าหน้าที่ได้กระจายกำลังออกค้นหาบริเวณท่าเทียบเรือเก่าบ้านพังกา และบริเวณสำนักกัมมัฏฐานหินลาด หมู่ 4 ต.ตลิ่งงาม อ.เกาะสมุย ที่มีภูมิประเทศติดทะเล มีป่ารก และบนภูเขา แต่การค้นหายังไม่พบเบาะแสหรือสิ่งของที่บ่งบอกว่าเป็นของนักท่องเที่ยวชาวรัสเซียที่หายตัวไป

ต่อมา พ.ต.อ.ไพฑูรย์ กระจะจ่าง ผกก.สภ.เกาะสมุย พร้อมด้วยกำลังเจ้าหน้าที่ ได้เดินทางไปยังโรงแรมเซ็นทรา โคโคนัท บีช รีสอร์ท สมุย ที่ น.ส.อินน่า นักท่องเที่ยวรัสเซียพักอยู่ก่อนหายตัวไป เพื่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมจากพนักงานโรงแรม และประชุมวางแผนการค้นหา

Advertisement

พ.ต.อ.ไพฑูรย์เปิดเผยว่า จากการสอบปากคำพนักงานต้อนรับส่วนหน้าของโรงแรมให้ข้อมูลว่า น.ส.อินน่า เข้าพักเมื่อวันที่ 14 เม.ย. มีกำหนดเช็กเอาต์ในวันที่ 22 เม.ย. แต่ในวันที่ 21 เม.ย. ช่วงเวลาระหว่าง 09.00-10.00 น. เห็น น.ส.อินน่าใส่เสื้อผ้าชุดเดรสสีฟ้าขาว เดินออกไปที่หน้าโรงแรมก่อนหายตัวไป ซึ่งทางพนักงานโรงแรมก็ไม่ทราบว่ามีใครมารับ หรือเดินออกไปเอง อีกทั้งทางโรงแรมไม่ได้ติดตั้งกล้องวงจรปิด จึงทำให้ยากต่อการค้นหา แต่ขณะเดียวกันได้มอบหมายให้ฝ่ายสืบสวนออกติดตามหาข่าว และตรวจสอบกล้องวงจรปิดในพื้นที่ใกล้เคียง

จากการสอบถามนายเซอร์เกย์ อาบู๊คนอฟ พ่อของ น.ส.อินน่า บอกว่า ได้รับการติดต่อจากลูกสาวครั้งสุดท้ายเมื่อวันที่ 17 เม.ย.ที่ผ่านมา จากนั้นก็ไม่สามารถติดต่อได้อีกเลย ซึ่งลูกสาวตนเองเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวประเทศไทยตั้งแต่วันที่ 13 เม.ย. มาเป็นกรุ๊ปทัวร์และจองที่พักผ่านเอเยนต์ ตลอดเวลาที่ลูกสาวอยู่ในประเทศไทยก็จะติดต่อกันทางโทรศัพท์ และจะโอนเงินให้ลูกสาวไว้ใช้ครั้งละ 500 ดอลลาร์สหรัฐ ตนเองรู้สึกเป็นห่วงลูกสาวมาก กลัวจะไม่ปลอดภัย เพราะลูกสาวมีอาการป่วยความจำเสื่อม ชอบเก็บตัวเงียบอยู่คนเดียว แต่ก็ยังมีความหวังว่าลูกสาวจะมีชีวิตอยู่ เพราะเมื่อวันที่ 5 พ.ค. มีคนพบเห็นหญิงต่างชาติทีมีลักษณะคล้ายลูกสาวของตนเอง ยืนอยู่ในอาการเหม่อลอยอยู่ที่หน้าวัดละไม ต.มะเร็ต อ.เกาะสมุย จึงเชื่อว่าต้องเป็นบุตรสาวที่หายไปอย่างแน่นอน

นายสมิฐศักย์ สุทธาระ หัวหน้าศูนย์ช่วยเหลือนักท่องเที่ยวจังหวัดสุราษฎร์ธานี เปิดเผยว่า ขณะนี้ยังมีความหวังว่าผู้สูญหายยังคงมีชีวิตอยู่ เพราะช่วงเวลาที่ผ่านมาไม่มีรายงานการเสียชีวิตของนักท่องเที่ยว ประกอบกับช่วงวันที่ 4 และ 5 พ.ค.ที่ผ่านมา มีคนเห็นหญิงชาวต่างชาติลักษณะใกล้เคียงกับผู้สูญหาย นอกจากนี้ยังได้ประชาสัมพันธ์ส่งข้อมูลผู้สูญหายไปยังหน่วยงานที่เกาะพะงัน เกาะเต่า พร้อมประสานไปยังโรงแรมที่พักบนเกาะแตน และเกาะมัตสุม ที่อยู่ใกล้กับจุดที่นักท่องเที่ยวหายตัวไป

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image