เมื่อวันที่ 14 พฤษภาคม นสพ.สาโรช จันทร์ลาด หัวหน้าฝ่ายสุขภาพสัตว์สำนักงานปศุสัตว์ จ.ประจวบคีรีขันธ์ กล่าวว่า กรณีสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ(สนช.) ให้ความสนใจบริหารจัดการปัญหาลิงในพื้นที่วิกฤต 12 จังหวัด โดย จ.ประจวบคีรีขันธ์เป็นเป้าหมายเร่งด่วนตามแนวทางที่กำหนดนั้น ปัจจุบันมีลิงแสมที่เขาช่องกระจก เขตอภัยทานของวัดธรรมิการามวรวิหาร หน้าศาลากลางจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ประมาณ 2,000 ตัว ที่ชุมชนสวนลิง และวัดเขาตะเกียบรวมกว่า 4,000 ตัว ส่วนหนึ่งอาศัยอยู่บนเกาะกลางทะเล เขตอุทยานแห่งชาติสามร้อยยอด ล่าสุด จากการสำรวจเบื้องต้นพบว่ามีปริมาณเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง เมื่อประชาชนหรือหน่วยงานของรัฐมีปัญหาจากลิงรบกวนด้วยการทำลายทรัพย์สิน จึงมักแจ้งสำนักงานปศุสัตว์จังหวัดทราบ ขณะที่ภารกิจในการแก้ปัญหาอย่างเป็นระบบควรเป็นอำนาจหน้าที่ของกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช
“หลายปีที่ผ่านมา สำนักงานปศุสัตว์ประจวบฯทำหมันลิงที่เขาช่องกระจกแล้วกว่า 1,000 ตัว จากนั้นแจ้งให้เทศบาลจัดระเบียบการให้อาหาร ส่วนพื้นที่หัวหินทราบว่า เทศบาลร่วมกับกรมอุทยานฯร่วมกันทำหมันลิงบางส่วน แต่ปริมาณไม่ลดลง สำหรับการแก้ปัญหาในอนาคตอย่างยั่งยืนเพื่อลดผลกระทบในระยะยาว รัฐบาลควรจัดสรรงบกลางเพื่อจัดตั้งนิคมลิง เช่นเดียวกับ จ.ลพบุรีพื้นที่ต้นแบบ โดยแต่ละจังหวัดต้องจัดหาพื้นที่เหมาะสม จากนั้นนำลิงในวัยเจริญพันธุ์จากแหล่งชุมชนที่ผ่านการทำหมันไปอาศัยในสวนลิงที่มีระบบนิเวศที่เหมาะสมจนกว่าจะหมดอายุขัย โดยจังหวัดตั้งคณะทำงานประกอบด้วยหน่วยงานรัฐที่เกี่ยวข้อง บูรณาการร่วมกับองค์กรพัฒนาเอกชน พร้อมขอความร่วมมือจากประชาชนในพื้นที่รวมทั้งนักท่องเที่ยวเพื่อจัดระเบียบทุกด้าน ” นายสาโรชกล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับลิงที่เขาช่องกระจก ปัจจุบันมีผู้ประกอบการจำนวนมากประกอบอาชีพจำหน่ายอาหารลิงให้นักท่องเที่ยว ทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ ขณะที่ลิงสร้างปัญหาจากการทำลายทรัพย์สินในหน่วยงานราชการที่ศาลากลางจังหวัดอย่างต่อเนื่อง สำหรับในวันปฏิบัติราชการจะมีเจ้าหน้าที่ อส.ถือหนังสติ๊กเพื่อขู่และขับไล่ เช่นเดียวกับลิงที่วัดเขาตะเกียบ แหล่งท่องเที่ยวชื่อดังเมืองหัวหิน มีการรื้อที่พักอาศัยและร้านอาหารในบริเวณใกล้เคียงเป็นปัญหาต่อเนื่องที่ประชาชนร้องเรียนถึงหลายหน่วยงาน
