กลุ่ม Watchdog แจ้งความ ‘ปศุสัตว์โคราช’ หลังจัดยาให้สุนัขกินเกินขนาดตาย 2 ตัว(คลิป)

เมื่อวันที่ 18 พฤษภาคม พญ.วันฤกษ์ ตรีธารทิพย์วิกุล ตัวแทนกลุ่ม Watchdog Thailand พร้อมด้วยชาวบ้าน ในพื้นที่หมู่บ้านบุขี้ตุ่น หมู่ที่ 5 ต.พลกรัง อ.เมือง จ.นครราชสีมา ได้เข้าแจ้งความต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.พลกลัง เพื่อดำเนินคดีเอาผิดเจ้าหน้าที่สำนักงานปศุสัตว์จังหวัดนครราชสีมา ในข้อหาทำทารุณกรรมสัตว์ โดยมี ร.ต.อ.จิราวัฒน์ ประยูรพันธ์ ร้อยเวร สภ.พลกรัง เป็นผู้รับแจ้งความ

โดยพญ.วันฤกษ์ กล่าวว่า สืบเนื่องจากเมื่อช่วงเย็นวันที่ 16 พฤษภาคม 2561 ได้มีการประชุมประชาคมหมู่บ้านบุขี้ตุ่น เรื่องการควบคุมการแพร่ระบาดของโรคพิษสุนัขบ้า โดยหลังจากการประชุมเสร็จ ทางเจ้าหน้าที่สัตวแพทย์สำนักงานปศุสัตว์จังหวัดนครราชสีมา ได้มอบยาซึม 1 หลอด และยาเม็ด 1 ถุงใหญ่ ซึ่งคาดว่าจะมีไม่ต่ำกว่า 50-60 เม็ด ให้กับนางสมจิตร ศรีพนม ซึ่งเป็นผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านบุขี้ตุ่น นำไปคลุกกับข้าวให้สุนัข 2 ตัวกิน เพื่อที่จะเก็บตัวอย่างน้ำลายจากกระพุ้งแก้มไปตรวจ ประกอบไปด้วย ตัวแรก เป็นสุนัขจรจัดสีส้มเข้ม ที่ต้องสงสัยว่าติดเชื้อโรคพิษสุนัขบ้า และตัวที่ 2 เป็นสุนัขของชาวบ้านสีดำ ซึ่งเจ้าของยืนยันว่าเคยฉีดวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้าแล้ว และแค่ป่วยจากการถูกตีมาเท่านั้น แต่วันต่อมาปรากฏว่าสุนัขทั้ง 2 ตัวเสียชีวิต

กลุ่ม Watchdog Thailand ตรวจสอบพบว่ายาเม็ดที่เจ้าหน้าที่สัตวแพทย์ให้ คือยาฟีโนบาร์บิตาล (Phenobabital) ที่มีฤทธิ์กดประสาทส่วนกลาง ดังนั้นเมื่อนำไปผสมอาการให้สุนัขกินในปริมาณมาก จึงทำให้สุนัขเสียชีวิตได้ ทั้งที่ก่อนหน้านี้ ช่วงประชุมกันได้ตกลงกันแล้วว่า ถ้าจะนำตัวอย่างไปตรวจไม่จำเป็นต้องตัดหัวสุนัข เพียงแต่นำน้ำลายที่กระพุ้งแก้มไปก็สามารถตรวจสอบได้ ซึ่งถือว่าเป็นการจงใจทำให้สุนัขเสียชีวิต เข้าข่ายการกระทำทารุณกรรมสัตว์ ทางกลุ่ม Watchdog Thailand จึงยอมไม่ได้ จำเป็นต้องแจ้งความเพื่อเอาผิดสำนักงานปศุสัตว์จังหวัดนครราชสีมา ในฐานะเป็นหน่วยงานผู้ดำเนินการจัดยาให้กับชาวบ้านนำไปคลุกข้าวให้สุนัขกินจนเกินขนาด จนทำให้สุนัขตายดังกล่าว ซึ่งขณะนี้ซากสุนัขทั้ง 2 ตัว ทางสำนักงานปศุสัตว์จังหวัดนครราชสีมา ก็ได้นำไปตัดหัวส่งตัวอย่างไปตรวจหาเชื้อโรคที่ศูนย์วิจัยและบำรุงพันธุ์สัตว์ จ.สุรินทร์แล้ว

Advertisement


ด้านนางสมจิตร ศรีพนม อายุ 58 ปี ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านบุขี้ตุ่น หมู่ที่ 5 กล่าวว่า ตนเองมีหน้าที่เป็น อสม.ประจำหมู่บ้านด้วย ซึ่งได้รับยาจากเจ้าหน้าที่สัตวแพทย์มา 2 ชนิด โดยเป็นยาน้ำ 1 หลอด และยาเม็ด 1 ถุงใหญ่ หลังจากนั้นได้ไปซื้อปลากระป๋องเพื่อผสมยากับอาหารให้สุนัขทั้ง 2 ตัวกิน จะได้จับตัวมาขังไว้ในกรงที่ อบต.พลกรัง โดยที่ไม่ทราบว่ายาชนิดดังกล่าวจะมีฤทธิ์ทำให้สุนัขถึงตายได้

ด้านนางพรรณทิพา เดชสำโรง ชาวบ้านเจ้าของสุนัขสีดำที่ตาย กล่าวว่า สุนัขตัวสีดำ ที่ตนเลี้ยงไว้ เป็นสุนัขพันธุ์ทางเพศผู้อายุประมาณ 2 ปี ชื่อเจ้าถั่วดำ ซึ่งตนเองได้เคยฉีดยาวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้าให้แล้ว แต่เนื่องจากว่ามันเพิ่งจะไปถูกตีมาทำให้มีอาการซึมๆ ดังนั้นทาง อสม.จึงบอกว่าให้นำไปตรวจเชื้อ ซึ่งตนเองก็อยากให้ทุกคนสบายใจ จึงอนุญาตให้จับเจ้าถั่วดำไปตรวจเชื้อ แต่หลังจากที่ อสม.นำอาหารให้มันกินตั้งแต่ช่วงเวลา 09.00 น. วันที่ 17 พฤษภาคม ก็มีอาการเซื่องซึม และสลบไปนานจนถึงเวลา 14.00 น. ก็ยังไม่ฟื้น ตนเองไปตรวจสอบดูก็พบว่ามีลูกดอกยาสลบปักหลังอยู่ และพบว่าสุนัขมีอาการเหนื่อย รวมทั้งหายใจช้าลง และเวลาประมาณ 17.00 น. สุนัขก็เสียชีวิต ซึ่งทำให้ตนเองรู้สึกเสียใจเป็นอย่างมาก


พญ.วันฤกษ์ ตรีธารทิพย์วิกุล ตัวแทนกลุ่ม Watchdog Thailand ได้นำหลักฐานเป็นภาพขณะที่เจ้าหน้าที่ปศุสัตว์จังหวัดนครราชสีมา นำสุนัขทั้ง 2 ตัวมาขังไว้ในกรงกักกันสัตว์ที่ อบต.พลกรังมอบให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.พลกรัง ก็ได้รับแจ้งความ และลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

Advertisement

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image