ครูเกษียณปลูกทุเรียน สร้างรายได้ปีละกว่าแสนบาท

เมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ จ.นครพนม นับเป็นข่าวที่สร้างความสนใจให้กับเกษตรกร ที่สนใจในอาชีพเกษตรพอเพียงสร้างรายได้ เป็นอย่างมาก ภายหลังนายฉลาด ไชยสิทธิ์ อายุ 83 ปี อดีตข้าราชการครูระดับผู้บริหาร เคยดำรงตำแหน่งเป็นผู้ช่วยผู้อำนวยการประถมศึกษาจังหวัดนครพนม ตั้งแต่ปี 2538 จนกระทั่งมีการวางแผนช่วงชีวิตใกล้เกษียณ จึงได้มาซื้อที่ดินว่างเปล่า เนื้อที่รวมกว่า 33 ไร่ ในพื้นที่ บ้านไผ่ล้อม ต.อาจสามารถ จ.นครพนม ทำเป็นสวนเกษตรพอเพียง ตามแนวทางพระราชดำริในหลวงรัชกาลที่ 9 โดยเริ่มทำการปลูกสวนผลไม้นานาชนิด ซึ่งเริ่มลงมือปลูกตั้งแต่ก่อนเกษียณราชการ ประมาณ 8 ปี เพราะส่วนหนึ่งมีความชอบในเรื่องของการเกษตร และเชื่อว่าการปลูกผลไม้เศรษฐกิจ จะทำให้มีรายได้ และตลาดมีความต้องการสูงโดยเฉพาะทุเรียน ถือว่าปลูกน้อยมากในพื้นที่ภาคอีสาน

จนกระทั่งมีการศึกษาหาความรู้จากเพื่อน คนรู้จักที่ทำงานในหน่วยงานเกษตร และมีการทดลองซื้อกิ่งพันธุ์ ต้นทุเรียนมาปลูกทั้งหมด รวม 100 ต้น แยกเป็น พันธุ์หมอนทอง จำนวน 50 ต้น และพันธุ์ชะนีอีก 50 ต้น นอกจากนี้ ในเนื้อที่สวนยังได้มีการปลูกผลไม้หลากหลายชนิด เพื่อเป็นการทดลองความเหมาะสม อาทิ มังคุด ต้นมะยงชิด มะปราง เงาะโรงเรียน ลิ้นจี่ขึ้นชื่อนครพนม พันธุ์ นพ.1 และแก้วมังกร พอเกษียณราชการ ได้ใช้เวลาว่างมาดูแลศึกษา เอาใจใส่ เน้นปลอดสารเคมี ทำให้หลังการปลูกประมาณ 5 -6 ปี ต้นทุเรียนเริ่มให้ผลผลิต จึงนำมารับประทาน พบว่ามีความอร่อยไม่แพ้ทุเรียนทางภาคกลาง เมื่อมีผลผลิตมากขึ้น จึงนำเก็บขายสู่ตลาดสร้างรายได้ รวมถึงผลผลิตผลไม้อีกหลากหลายชนิด สร้างรายได้เดือนละหลายหมื่นบาท ที่สำคัญยังได้เปิดเป็นแหล่งศึกษาเที่ยวชมสวนเกษตรทางเลือก ให้ประชาชน นักท่องเที่ยว ได้มาเที่ยวชมศึกษา นำไปเป็นแบบอย่าง เป็นวิทยาทาน สำหรับผู้ที่สนใจ นำไปปลูกเป็นอาชีพสร้างรายได้ ทำให้ปัจจุบันสวนเอื้อวิมาน กลายเป็นที่สนใจ เข้ามาศึกษาเยี่ยมชมความสำเร็จการปลูกทุเรียน และมาเที่ยวชมธรรมชาติ ชิมรสชาติทุเรียนนครพนมไม่ขาดสาย

โดย นายฉลาด ไชยสิทธิ์ อายุ 83 ปี อดีตข้าราชการครูระดับผู้บริหาร เปิดเผยถึงความสำเร็จในการปลูกทุเรียนว่า หลังตนได้ศึกษาทดลองปลูกทุกเรียน รวมถึงผลไม้หลากหลายชนิด เพราะมีความชอบส่วนตัว จึงตัดสินใจใช้ชีวิตหลังเกษียณเป็นเกษตรกรเต็มตัว มาทำสวนผลไม้เศรษฐกิจ จนพบว่าทุเรียนสามารถปลูกได้ในพื้นที่ จ.นครพนม แต่อาจต้องมีการดูแลศึกษาเอาใจใส่ ในเรื่องการบำรุง แต่สุดท้ายตลอดระยะเวลากว่า 20 ปี หลังเกษียณอายุราชการ ได้มีความสุขกับการเห็นผลผลิตทุเรียน ที่หาดูยาก พื้นที่อีสานปลูกน้อย รวมถึงนครพนม ถือเป็นที่เดียว ทำให้ทุกวันนี้ในช่วงเดือนเมษายนถึงมิถุนายน จะมีผลผลิตทุเรียนจำนวนมาก ปัจจุบันได้มีการเก็บผลผลิตทุเรียนในสวนออกไปขายทุกวัน สร้างรายได้เดือนละไม่ต่ำกว่าหมื่นบาท รวมถึงมีผลไม้หลากหลายชนิดไปขายด้วย

ส่วนรสชาติทุเรียนนั้น ยืนยันว่าไม่แพ้ทุเรียนขึ้นชื่อทาง จ.ระยอง หรือจันทบุรี ซึ่งตนต้องการให้เกษตรกร หรือผู้ที่สนใจมาศึกษาเยี่ยมชม เพื่อนำไปปลูกสร้างรายได้ และพร้อมให้คำปรึกษาแนะนำเป็นวิทยาทาน เพราะศึกษาทดลองปลูกมานานกว่า 20 ปี เน้นปลอดสารพิษ ไม่มีสารเคมี ใช้ปุ๋ยอีเอ็มธรรมชาติทั้งหมด เชื่อว่าหากเกษตรกรทำได้จะเป็นผลไม้ที่สร้างรายได้ดีมาก และไม่ต้องกังวลเรื่องตลาด เพราะพื้นที่อีสานมีน้อย ซึ่งทุกวันนี้ทำให้ตนมีรายได้หลังเกษียณปีละไม่ต่ำกว่าแสนบาท เพราะสามารถเก็บผลผลิตขายทั้งทุเรียน มังคุด เงาะ มะปราง โดยจะขายในราคาต่ำกว่าท้องตลาด ทุเรียนหมอนทอง ขายกิโลละ 100 บาท ชะนีกิโลกรัมละ 50 บาท ถูกกว่าตลาดทั่วไป อีกทั้งยังได้กินทุเรียนคุณภาพจากสวนโดยตรง ที่สำคัญได้เปิดให้ประชาชน นักท่องเที่ยว ได้เที่ยวชมศึกษาการปลูกทุเรียนฟรีอีกด้วย เพราะอยากให้คนที่สนใจมาศึกษา นำไปปลูก เพราะเชื่อว่าการทำอาชีพเกษตรพอเพียง และเกษตรทางเลือกจะเป็นอาชีพที่มั่นคง สร้างรายได้งาม อนาคตจะส่งเสริมให้ลูกหลาน ขยายพื้นที่เพาะปลูกมากขึ้น หากใครสนใจสามารถมาเที่ยวชมศึกษาได้ที่สวนเอื้อวิมาน บ้านไผ่ล้อม ต.อาจสามารถ อ.เมือง จ.นครพนม ยินดีต้อนรับ

Advertisement

 

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image