เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 23 พฤษภาคม 2561 พล.ต.สาธิต ศรีสุวรรณ ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 33 (มทบ.33) สั่งการให้นำกำลังทหาร จำนวน 100 คน สนธิกำลังกับเจ้าหน้าที่ป่าไม้จากทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดเชียงใหม่ จำนวน 50 นาย พร้อมอุปกรณ์เข้าพื้นที่ศาลอุทธรณ์ภาค 5 อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ บริเวณอาคารชุด 9 หลัง เพื่อทำการขุดหลุมเตรียมความพร้อมในการปลูกป่าตามนโยบายของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ตาม ‘โครงการปลูกต้นไม้ฟื้นฟูป่าดอยสุเทพ เนื่องในวันต้นไม้ประจำปีของชาติ’ ในวันที่ 27 พฤษภาคม 2561
โดยในส่วนของสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 16 (เชียงใหม่) ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดเชียงใหม่ เริ่มลำเลียงต้นไม้ใหญ่ จำนวน 35 ต้น กล้าไม้ 300 กล้า อาทิ คูณ อินทนิลน้ำ ทองกวาว พะยอม หว้า เสลา สัก ตะเคียนทอง คำมอกหลวง พลวง เหียง ขนาดสูง 2 เมตร ซึ่งส่วนใหญ่เป็นพันธุ์ไม้ป่าเต็งรังและเบญจพรรณ หญ้าแฝกกว่า 6,000 ต้น และดินดำสำหรับปลูกต้นไม้ไปเตรียมไว้ในพื้นที่ปลูกจริง 23 ไร่ พร้อมอุปกรณ์สำหรับสร้างฝายชะลอน้ำเหนือลำห้วยแม่ชะเยือง และลำห้วยแม่จอกหลวง 2 จุด
ในขณะที่เครือข่ายขอคืนพื้นที่ป่าดอยสุเทพ ได้ประกาศเชิญชวนคนเชียงใหม่หัวใจสีเขียว ร่วมกันฟื้นฟูป่าระยะเร่งรัด เรียนรู้ระบบนิเวศป่าดอยสุเทพ ทำฝายชะลอน้ำ ป้องกันภัยพิบัติ น้ำท่วม โคลนถล่ม พร้อมเยี่ยมชมบ้านป่าแหว่งให้เห็นกับตา และเดินสำรวจห้วยชะเยืองสายน้ำบนดอยสุเทพ ในเวลา 08.30 น. วันที่ 27 พฤษภาคม 2561
ในขณะที่นายจตุภูมิ มีเสนา หน่วยวิจัยการฟื้นฟูป่า มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ กล่าวถึงกรณีสำนักงานโครงการชลประทานเชียงใหม่ อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ อุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ-ปุย เชียงใหม่เขียวสวยหอม สโมสรนักเขียนเชียงใหม่ และชุมนุมนักกิจกรรมภาคเหนือ จัดกิจกรรม ป่านี้มีอะไร สร้างคนสร้างกล้า – Making Smart Seeds & Seedlings เมื่อวันอาทิตย์ที่ 20 พฤษภาคมที่ผ่านมาว่า เป็นเรื่องที่ได้คุยกับเชียงใหม่เขียว สวย หอมว่า อยากเข้าไปเรียนรู้ความหลากหลายและระบบนิเวศในป่ารอบอ่างเก็บน้ำแม่จอกหลวง ซึ่งอยู่ใกล้กับเส้นทางบ้านพักตุลาการ อยากให้เยาวชนไปทำความรู้จักและเก็บเมล็ดพันธุ์ไม้ สำรวจสภาพพื้นที่ป่าเต็งรังและป่าเบญจพรรณ โดยในส่วนของตนได้เสริมเรื่องความรู้พันธุ์ไม้สมุนไพร การปลูกจิตสำนึกให้กับเยาวชนต้องใช้เวลา แต่อยากให้เขาได้ปลูกกล้าด้วยมือตนเอง เริ่มตั้งแต่การเก็บเมล็ดพันธุ์มาเพาะแล้วปลูกให้เติบโตเป็นต้นไม้ ซึ่งเขาจะมีความรู้สึกรักในต้นไม้ที่ปลูกเองกับมือแล้วเติบโตขึ้นในธรรมชาติ
ส่วนในวันที่ 27 พฤษภาคมที่จะมีการเข้าไปปลูกป่ากันนั้น นายจตุภูมิ กล่าวว่า คาดว่าคนจะเยอะมากจึงไม่แน่ใจว่าเยาวชนจะเข้าไปมากน้อยแค่ไหน เพราะจำนวนต้นไม้และกล้าไม้ไม่มากเท่าจำนวนคน เพียงแค่เจ้าหน้าที่ทหารและป่าไม้ก็เยอะแล้ว และศาลอนุญาตให้เข้ามากน้อยแค่ไหน และตนยังพูดคำเดิมว่าห่วงการปลูกป่าในพื้นที่ซึ่งยังไม่ได้รื้ออาคารออก เพราะหากต่อไปจะรื้อก็จะมีผลกระทบต่อต้นไม้ที่ปลูกในวันนี้ซ้ำอีก เท่ากับว่าเราต้องปลูกแล้วปลูกอีก โดยเฉพาะต้นไม้ใหญ่จำนวน 35 ต้น ที่ปลูกแล้วจะต้องมีการล้อมต้นไม้ แต่ต้นไม้ใหญ่ที่ว่าไม่มีรากแก้ว หากฝนตกหนักและมีดินสไลด์ ต้นไม้จะสไลด์ลงมาด้วย ซึ่งอันตรายมาก
น.ส.ลักขณา ศรีหงส์ เชียงใหม่เขียว สวย หอม กล่าวว่า ในส่วนของเครือข่ายเดินหน้าประกาศเชิญชวนประชาชนไปร่วมกิจกรรมปลูกป่าแบบวงกว้าง ไม่ได้เจาะจงเฉพาะเยาวชนเพราะต้องมีการเตรียมการเรื่องรถเดินทางและการดูแลอื่นๆ แต่คาดว่าจะมีหน่วยงานที่เป็นแม่งาน เช่น ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และหน่วยงานทหารจะเป็นผู้ประสานเชิญไปยังโรงเรียนและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
