วันที่ 6 เมษายน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 10.00 น. นายนิพนธ์ จำนงสิริศักดิ์ ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 15 ได้รับแจ้งว่า เกิดไฟป่าขึ้นในพื้นที่ป่าดอยปุย ซึ่งติดถนนเชียงราย-ห้วยสัก จึงให้ นายปรีชา ทองคำเอี่ยม ผู้อำนวยการส่วนควบคุมและปฏิบัติการไฟป่า พร้อมด้วยชุดเฉพาะกิจดับไฟป่า นำกำลังเข้าไปควบคุมสถานการณ์เพราะไฟป่าค่อนข้างรุนแรง โดยจากการตรวจสอบพบการเกิดไฟป่าขึ้นในพื้นที่ดอยปุย มีสถานีสัญญาณโทรทัศน์หลายช่องตั้งอยู่บนยอดเขา และพื้นที่ดังกล่าวเป็นเขตอุทยานแห่งชาติ แม่ปืมที่ 2 (ห้วยพญาเก๊า) ซึ่งที่เกิดไฟไหม้ คือ บ้านหัวดอย หมู่ 6 และ หมู่ 12 ตำบลท่าสาย อำเภอเมือง โดยเกิดขึ้นพร้อมกันหลายจุดและเป็นแนวยาว บางจุดนั้นเกิดเขาสูงชันและเป็นหน้าผา ทำให้เจ้าหน้าที่ดับไฟป่า รวมทั้งชาวบ้าน กว่า 100 คน เป็นไปด้วยความยากลำบาก ทำให้ไฟนั้นลุกลามอย่างรวดเร็วมากขึ้น
ทั้งนี้ การดับไฟเป็นด้วยความยากลำบาก ทางเจ้าหน้าที่สำนักควบคุมไฟป่าเชียงราย พร้อมด้วย ชุดเฉพาะกิจดับไฟป่า สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 15 เชียงราย ได้นำเฮลิคอปเตอร์ทำการขึ้นบินและตักน้ำ เพื่อนำน้ำจากอ่างพญาเก๊า ทำการดับไฟป่า และให้เจ้าหน้าที่ภาคพื้นทำการดับไฟให้สนิท

ด้านเจ้าหน้าที่แจ้งว่า ไฟป่าทำให้พื้นที่ป่าได้รับความเสียหายมากกว่า 500ไร่ ล่าสุดเจ้าหน้าที่ได้ควบคุมการเกิดไฟป่าในพื้นที่ดอยปุยอยู่ในวงจำกัดแล้ว แต่ต้องมีการเฝ้าระวังตลอด 24 ชั่วโมง
อย่างไรก็ตาม สาเหตุของการเกิดไฟป่าทางเจ้าหน้าที่เชื่อว่ามาจากการลักลอบเผาป่าอย่างแน่นอน เพราะเจ้าหน้าที่พบหลักฐานบางอย่างเชื่อที่ว่ามาจากการลักลอบเผา และการเกิดไฟป่ากระจายไปในหลายจุดในเวลาใกล้เคียงกัน ประจวบกับในพื้นที่ดอยปุย ไม่เคยเกิดไฟป่ามานานกว่า 4 ปีแล้ว ทำให้มีเชื้อเพลิงที่เป็นใบไม้แห้งและหญ้าแห้งสะสมทับถมกันจำนวนมากจึงทำให้เกิดไฟป่าขึ้นได้ง่าย