แม่ทัพภาค 4 แถลงสรุปติดตาม 9 คดีความมั่นคงป่วนใต้ ช่วงเดือนรอมฎอน

(แฟ้มภาพเหตุการณ์ระเบิดตู้เอทีเอ็ม 20 พ.ค.2561)

เมื่อวันที่ 28 พฤษภาคม ที่ห้องวอร์รูม ชั้น 2 ศูนย์ปฏิบัติการณ์สำนักงานตำรวจแห่งชาติส่วนหน้า อ.เมือง จ.ยะลา พล.ท.ปิยวัฒน์ นาควานิช ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 พร้อมด้วย พล.ต.ต.ทรงเกียรติ วาทะกุล รองผู้บัญชาการกองกำลังตำรวจจังหวัดชายแดนภาคใต้ และนายเจษฎา จิตรัตน์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจ และหัวหน้ากองกำลังตำรวจทั้ง 3 จังหวัด และ 4 อำเภอสงขลา ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสงขลา พร้อมทั้งหัวหน้าหน่วยต่างๆ ร่วมแถลงข่าวความคืบหน้าคดีสำคัญ ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ห้วงเดือนรอมฎอน ในพื้นที่ จ.ปัตตานี จำนวน 4 คดี จ.นราธิวาส 3 คดี ดังนี้
ในพื้นที่ จังหวัดปัตตานี จำนวน 4 คดี

1.กรณีคนร้ายลอบวางระเบิดตู้ ATM ธนาคารในพื้นที่ อ.เมือง จ.ปัตตานี จำนวน 10 ลูก เมื่อวันที่ 20 พ.ค.ที่ผ่านมา ลักษณะระเบิดบรรจุในกล่องพลาสติก (ภาชนะอำพราง) ตั้งเวลาโดยใช้ไอซีไทม์เมอร์ มีแหล่งจ่ายพลังงาน ขนาด 1.5 โวลต์ ไม่มีสะเก็ดระเบิด การตรวจสอบกล้องวงจรปิด ทราบว่าคนร้ายที่ร่วมกันก่อเหตุดังกล่าว มีไม่ต่ำกว่า 15 คน ต่อมา เมื่อวันที่ 24 พ.ค.61 เจ้าหน้าที่ 3 ฝ่าย สามารถควบคุมตัวผู้ต้องสงสัยได้ 1 คน เข้าสู่กระบวนการซักถาม และตรวจยึดรถจักรยานยนต์คันที่คนร้ายใช้เป็นยานพาหนะในการก่อเหตุ จำนวน 1 คัน จากการสอบถามให้การรับสารภาพและให้การซัดทอดถึงผู้ร่วม ก่อเหตุ นำสู่การออกหมายผู้ต้องหาได้ จำนวน 9 คน

2.กรณีเจ้าหน้าที่จับกุมนายมะรอตือปี กาแปะ ผู้ต้องหาตามหมายจับ ป.วิอาญา กรณีเหตุยิง ด.ต.อิสรานันท์ แวเด็ง เสียชีวิต พื้นที่ อ.ไม้แก่น จว.ปัตตานี เมื่อ 25 ส.ค. 60

3.กรณีเหตุติดป้ายผ้า รวมทั้งหมด 33 จุด ในพื้นที่ 3 จชต. และ 4 อำเภอ จ.สงขลา เมื่อวันที่ 4 พ.ค. 61 เวลาประมาณ 04.00 – 05.00 น. เกิดเหตุคนร้ายแขวนป้ายผ้า ในลักษณะโจมตีการทำงานของเจ้าหน้าที่รัฐ และปลุกปั่นเพื่อให้เกิดความแตกแยกในพื้นที่นั้น จากกรณีดังกล่าวผลการตรวจพิสูจน์ DNA จากของกลางในที่เกิดเหตุ สามารถระบุตัวได้ จำนวน 2 คน

Advertisement

4.กรณีเจ้าหน้าที่จับกุมบุหรี่ต่างประเทศมูลค่ากว่า 50 ล้านบาท เมื่อวันที่ 22 พ.ค. 2561 เวลาประมาณ 22.20 น. เจ้าหน้าที่ร่วม ทหาร ตำรวจ ร่วมกันสกัดกั้นรถสิบล้อป้ายทะเบียน 80-8604 ตรัง บนถนนสาย 409 ต.นาประดู่ อ.โคกโพธิ์ จ.ปัตตานี ซึ่งรถสิบล้อคันดังกล่าวได้ขับรถแหกด่านเจ้าหน้าที่ จากการไล่ล่าติดตาม พบรถสิบล้อคันดังกล่าวจอดทิ้งอยู่ข้างทาง จากการตรวจสอบภายในสิบล้อ พบบุหรี่ต่างประเทศที่ยังไม่ได้เสียภาษีรวมทั้งสิน 830 ลัง คิดเป็นเงินมูลค่าประมาณ 50 ล้านบาท

ในพื้นที่ จังหวัดนราธิวาส จำนวน 3 คดี

1.กรณีลอบยิงเจ้าหน้าที่ตำรวจสากอ

Advertisement

ด้วยเมื่อวันที่ 4 เม.ย. 61 เวลา 8.20 น. คนร้ายจำนวนไม่น้อยกว่า 3 คนได้ร่วมกันก่อเหตุยิง ร.ต.อ.วุฒิศักดิ์ พูลสวัสดิ์ รอง สว.สส.สภ.สากอ เสียชีวิต และได้นำเอาอาวุธปืนของผู้ตายไป จากการตรวจที่เกิดเหตุพบปลอกกระสุนปืน ขนาด 5.56 มม. จำนวน 6 ปลอก ผลการตรวจทางนิติวิทยาศาสตร์ พบว่าเป็นอาวุธปืน ที่เคยใช้ก่อเหตุ เมื่อวันที่ 25 ธ.ค.60 คนร้ายยิงถล่มจุดตรวจฉัตรวาริน เทศบาลตำบล ปะลุรู อ.สุไหงปาดี จ.นราธิวาส จากการรวบรวมพยานหลักฐานทั้งหมด ทำให้สามารถออกหมายจับ ผู้เกี่ยวข้องในคดีนี้ทั้งหมด 7 คน

2.กรณีคนร้ายวางระเบิดใน พื้นที่ สภ.โก-ลก

ด้วยเมื่อวันที่ 9 เม.ย. 61 เวลา 17.55 น. ได้เกิดคนร้ายลอบวางเหตุระเบิด จำนวน 3 จุด ได้แก่ จุดที่ 1 หน้าร้านข้าวต้ม ถ.ประชาวิวัฒน์ ซ.3 เทศบาลเมืองสุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส จุดที่ 2 หน้าร้านคาราโอเกะดีโม ถ.ประชาวิวัฒน์ ซ.4 เทศบาลเมืองสุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส จุดที่ 3 หลังโรงแรมพลาซ่า ถ.เทศปฐม ต.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส ทำให้ประชาชนได้รับบาดเจ็บ จำนวน 12 คน

คดีดังกล่าว ได้มีการออกหมายจับคนร้ายไว้ 3 คน ได้แก่ นายบัณดิท เจ๊ะสะแลแม, นายอับดุลปาเต๊ะ มามะ, นายมูหามัดฟาร์มี มูดอ และจากการตรวจสอบอาวุธปืนยาวดังกล่าวพบว่า เคยใช้ก่อเหตุในคดีความมั่นคงมาแล้ว 5 คดีในพื้นที่ จชต. และได้มีการควบคุมตัวผู้เกี่ยวข้องในคดีนี้อีก 2 คน ทำให้สามารถพิสูจน์ทราบกลุ่มคนร้ายที่ขี่ จยย.ไปก่อเหตุในวันดังกล่าวทั้งหมดแล้ว อยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อออกหมายจับต่อไป

3.คดี ตรวจยึดวัตถุระเบิด สภ.สากอ

เมื่อวันที่ 19 พ.ค.61 เวลา 16.00 น. จนท.ตำรวจ สภ.สากอ ได้ตั้งด่านตรวจอยู่บริเวณบ้านยะลูตง เขตติดต่อ สากอ-บ้านบาโง อ.แว้ง จ.นราธิวาส พบชายต้องสงสัยมีท่าทางพิรุธ ขี่รถจักรยานยนต์มาใกล้ถึงด่านตรวจได้กลับรถ และขี่รถจักรยานยนต์หนีไป เจ้าหน้าที่จึงได้ออกติดตาม พบว่าคนร้ายได้โยนถุงพลาสติกลงข้างทาง จากการตรวจสอบพยานหลักฐาน พบว่าเป็นระเบิดแสวงเครื่อง จำนวน 4 ลูก อยู่ในถุงพลาสติก-รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อ ฮอนด้าเวฟ ทะเบียน 1 กค 1815 ปัตตานี (ที่ใต้เบาะพบว่ามีแผงวงจรต่อพ่วงกับนาฬิกา) จึงได้ทำการตรวจสอบเจ้าของกรรมสิทธิ์รถ จยย.คันดังกล่าว ทำให้สามารถพิสูจน์ทราบ ควบคุมตัวเจ้าของรถตามกฎอัยการศึก 1 คน และ ออกหมายจับ ป.วิ 1 คน (หลบหนี)

พล.ท.ปิยวัฒน์ นาควานิช ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 กล่าวว่า หน่วยงานภาครัฐ ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ ต้องการที่จะให้น้องๆ เยาวชนที่มีความคิดต่าง มาร่วมกันพัฒนาประเทศ อย่าไปทำในสิ่งที่ไม่ถูกต้อง สิ่งที่เกิดขึ้นทุกวันนี้ เมื่อเกิดสถานการณ์พี่น้องประชาชน รวมถึงญาติๆ ของน้องๆ ก็ได้รับความเดือดร้อนจากสถานการณ์ไปด้วย ในพื้นที่ขณะนี้ด้านความเชื่อมั่น นักลงทุนต่างๆ พร้อมที่จะเข้ามาในพื้นที่ ตามนโยบายของรัฐบาล มั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน ในห้วงเดือนนี้ เดือนรอมฎอน เดือนแห่งความบริสุทธิ์ เดือนแห่งความดี ความรักที่มีต่อกัน อย่าให้ทำคุณงามความดีแค่เดือนนี้เดือนเดียว อย่ากให้ทำความดีทั้ง 12 เดือน น้องๆ ที่หลงผิด หรือไม่เข้าใจ ขอให้กลับมา ซึ่งทางเจ้าหน้าที่หน่วยงานรัฐ ทั้งทหาร ตำรวจ ฝ่ายปกครอง พร้อมที่จะดูแลน้องๆ อยู่แล้ว นอกจากนี้ คลิปที่มีการเผยแพร่ สร้างความหวาดกลัวให้กับพี่น้องประชาชนนั้น ขณะนี้ได้มีการตรวจสอบแล้ว เป็นการสร้างความปั่นป่วนของผู้ที่ไม่หวังดีในพื้นที่ ขอให้ประชาชนช่วยเป็นหูเป็นตาให้กับเจ้าหน้าที่ มาร่วมมือกัน อย่าตกเป็นเครื่องมือ

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image